บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดการประชุม "THAI Networking : Discover Brand New Sky" อย่างต่อเนื่อง สำหรับครั้งนี้ได้เชิญตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารที่มีบทบาทสำคัญในตลาดญี่ปุ่น เกาหลี และออสเตรเลีย เข้าร่วมประชุม โดยมี Mastercard เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ร่วมกับผู้สนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ Jim Thompson สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และ ERB โดยมี นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารการบินไทย สายการบินไทยสมายล์ และผู้แทนจากองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ร่วมงาน ณ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ
บริษัท การบินไทยฯ ได้นำเสนอความคืบหน้าของกลยุทธ์ด้านการพาณิชย์ที่สำคัญ ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ อาทิ ด้านการขาย การตลาด และการหารายได้ รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ของการบินไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารและพันธมิตรในญี่ปุ่น เกาหลี และออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นตลาดที่สำคัญของการบินไทย ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจและประชาสัมพันธ์ความพร้อมของการบินไทยและประเทศไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ดังนี้
- Feasible Products and Improved Services การปรับแบบเครื่องบินและเส้นทางบินที่เหมาะสมสำหรับขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางอากาศ ให้สามารถสร้างรายได้และทำกำไรอย่างยั่งยืน รวมทั้งพัฒนาเส้นทางบินผ่านความร่วมมือกับสายการบินไทยสมายล์และสายการบินพันธมิตร Star Alliance เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งการบินไทยมีปริมาณการจองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนเมษายน 2565 มีปริมาณการจองถึง 80-90% ในเส้นทางยุโรป
- Revenue & inventory management การพัฒนาช่องทางการขาย ทั้งช่องทางผ่านตัวแทนจำหน่ายและช่องทางออนไลน์ (Online Travel Agent) เพื่อความสะดวกและสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยกำหนดราคาที่คุ้มค่าและยังสามารถแข่งขันได้ รวมทั้งสร้างโอกาสทางการขายใหม่ๆ โดยกำหนดเงื่อนไขบัตรโดยสารต่างๆ ให้เรียบง่ายและมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
- Cargo Revenue Lead การเพิ่มส่วนแบ่งในธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศและพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งคาร์โก้การบินไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม 2565 สามารถสร้างรายได้สูงกว่าช่วงเวลาดียวกันในปีที่ผ่านมา
- Cost Efficiency Distribution Channels การเพิ่มประสิทธิภาพการขายและการหารายได้ โดยมุ่งเน้นเส้นทางบินที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างผลกำไรสูงสุด และวางกลยุทธ์ในการขาย นอกเหนือจากเส้นทางบินตรงสู่กรุงเทพฯ แล้ว ยังเน้นการขายกลุ่มผู้โดยสารเดินทางข้ามภูมิภาค โดยใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางในการต่อเครื่อง เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค อาทิ จากออสเตรเลีย เอเชียตอนเหนือและตอนใต้ รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สายการบินไทยสมายล์) สู่ทวีปยุโรปและเอเชียตะวันตก สำหรับกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าตลาดแรงงาน โดยในตารางการบินฤดูร้อน 2565 การบินไทยทำการบินสู่เส้นทางต่างๆ ถึง 34 เส้นทางบิน
- Customer & Marketing
- ความสอดคล้องของผลิตภัณฑ์กับการตลาด การปรับปรุงการให้บริการ โดยมุ่งเน้นแนวทางยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกจุดสัมผัสบน Customer Journey
- มุ่งเน้นการตลาดดิจิทัล เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้า ในการเข้าถึงบริการของการบินไทยผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่สะดวกขึ้น พัฒนา Content ให้มีความน่าสนใจ รวมถึงการนำฐานข้อมูลลูกค้าแต่ละกลุ่ม มาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอบริการในลักษณะ Personalize มากขึ้น ตลอดจนบริหารจัดการ การใช้งาน Social Media แต่ละ Platform ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้แนะนำบริการใหม่ อาทิ สิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นของสมาชิกบัตร Royal Orchid Plus โปรแกรมท่องเที่ยว Royal Orchid Holidays การจองอาหารล่วงหน้า พร้อมระบบสาระบันเทิงบนเครื่องบิน อีกทั้ง ร่วมมือกับโครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงที่พัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในการรังสรรค์กาแฟ "Black Silk Blend" กาแฟสูตรพิเศษที่มีเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัว ซึ่งจะให้บริการผู้โดยสารในชั้นธุรกิจ อันเป็นการมีส่วนสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น สร้างงาน เสริมอาชีพ