กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
“อัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท” รุกหนักตลาดบลูโอเชี่ยน ชูกลยุทธ์ ‘Luxury Leisure’ เจาะกลุ่มไฮเอนด์ นักธุรกิจต่างชาติ - ไมซ์ เร่งกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น คาดยอดจองห้องพักสิ้นปี’51 เพิ่มกว่า 80%
บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยม และผู้ดำเนินการบริหารโรงแรม “อัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน” โรงแรม พรีเมี่ยมระดับ 5 ดาว สไตล์เอเชี่ยน — คอนเท็มโพลารี่ เตรียมแผนรุกตลาดกลุ่มไฮเอนท์อย่างต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ ‘Luxury Leisure’ เจาะกลุ่มตลาด นักธุรกิจชาวต่างชาติและกลุ่มไมซ์ รองรับการเติบโตของตลาดหัวหินตลอดช่วงกรีนซีซั่น และไฮซีซั่น พร้อมแผนโรดโชว์แนะนำโรงแรมในต่างประเทศ ทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย คาดยอดจ้องห้องพักสิ้นปี เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 80% อย่างแน่นอน
นางนุสรา บัญญัติปิยพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่าจากการที่ตลาดท่องเที่ยวของหัวหินมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บริษัทฯ จึงได้วางในการดำเนินการบริหารและแนะนำโรงแรมอัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน ให้เป็นที่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวไฮเอนด์มากขึ้น โดยได้ใช้กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในระดับไฮเอนด์ ซึ่งประกอบด้วยเอเจนซี่ท่องเที่ยวระดับอินเตอร์เนชั่นแนล การเดินทาง การบริการด้านสปา อาหาร กอล์ฟ การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแบบหัวหินดั้งเดิม วัฒนธรรม และสถานที่แปลกใหม่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันกับหน่วยงานราชการและสถาบันเอกชนด้านการท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เป็นต้น
“สำหรับโครงการด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น บริษัทฯ ได้เริ่มต่อยอดในการพัฒนาโครงการประเภทบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยมบริเวณพื้นที่เดียวกับโรงแรมอัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน ภายใต้ชื่อ “โอเชี่ยน วิลล่า หัวหิน” ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์คอนเท็มโพลารี่ ที่ผสมผสานความลงตัวของไทย-หัวหินโบราณและวิคตอเรียน โดยในขณะนี้ได้ดำเนินการลงเสาเข็มและปรับพื้นที่เพื่อเตรียมดำเนินการก่อสร้าง และอยู่ระหว่างขั้นตอนการประเมินราคาค่าก่อสร้างกับผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างทั้งโครงการ ประกอบด้วย บ้าน 3 สไตล์ ขนาด 3 - 5 ห้องนอน จำนวน 18 ยูนิต ได้แก่ บ้านแสนสำราญ 1-2-3 ขนาดพื้นที่ 100 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 14 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท บ้านปุรชาติ ขนาดพื้นที่ 200 — 220 ตารางวา จำนวน 3 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 70-120 ล้านบาท และบ้านนเรศ ขนาดพื้นที่ 400 ตารางวา จำนวน 1 ยูนิต โดยจะดำเนินการเข้าประมูลในรูปแบบ E-Auction ที่ราคาเริ่มขึ้นที่ 125 ล้านบาท”
ด้านโรงแรมอัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน นายกล้า กิจการ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า หลังจาก “อัสสรา” ได้ดำเนินการ Soft Opening มาเป็นระยะเวลา 1 ปี เราได้ประสบความสำเร็จในด้านของการพัฒนาการบริหารงานด้านการบริการทั้งสปา อาหาร และที่พัก พร้อมพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริการแบบ Business Segment กับกลุ่มนักธุรกิจและไมซ์ โดยได้ตั้งเป้าหมายเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ แบ่งเป็นโซนยุโรป - สแกนดิเนเวีย 80%, โซนอเมริกา 10% และโซนเอเชียแปซิฟิก 10% โดยได้ดำเนินการแนะนำโรงแรมไปยังกลุ่มต่างประเทศ เช่น กลุ่มสแกนดิเนเวีย กลุ่มยุโรป อาทิ เยอรมัน เบลเยี่ยม กลุ่มเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีอัตราค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางท่องเที่ยวค่อนข้างสูง โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มมายเยอร์ของเยอรมัน กลุ่มเซ็นทรัลของอังกฤษ และกลุ่มนิวเจเนอร์เรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งมีมูลค่าการเติบโตของการตลาดท่องเที่ยวและฮันนีมูนสูงขึ้นทุกปี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีลูกค้าเข้ามาพักและใช้บริการประมาณ 50% จัดเป็นกลุ่ม Domestic market ประมาณ 30% และอีก 70% เป็นกลุ่ม Overseas market ประเภทครอบครัว และกลุ่มผู้สูงอายุที่เน้นกิจกรรมการพักผ่อนเป็นหลัก
สำหรับในปี 2551 ได้เตรียมแผนกลยุทธ์ “Luxury Leisure” เพื่อตอกย้ำและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างประเทศตลอดปี โดยเน้นการเปิดประสบการณ์พิเศษในด้านต่างๆ ทั้ง ด้านการบริการ เน้นการบริการแบบไทย ที่มีระดับมาตรฐานสากลของ Butler, Manfriday, Footman และ Concierge เน้นการฝึกอบรมในรูปแบบกลุ่ม Specialist และ General List ด้านสปา ที่มีให้เลือกผ่อนคลายแบบนวดไทย และนวดอโรมากว่า 30 หลักสูตร ห้องอาหาร เน้นการบริการ 3 สไตล์ 3 ห้องอาหาร ทั้งอาหารไทยกับห้องอาหาร ‘อัสสรา ไทย บิสโทร’, ห้องอาหารก้ามปูบาย ดีไซน์ และห้องอาหารก้ามปู บาย ชอยส์ ที่เน้นการเติมเต็มอรรถรสในการทานมากยิ่งขึ้น ด้านห้องพัก ที่มีความเป็นพรีเมี่ยมกว่า 52 พูลวิลล่า และ 44 ห้องสวีท กีฬาและกิจกรรมต่างๆ เน้นสร้างความผ่อนคลายและความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้าพัก อาทิ เรือใบโฮบี้ แคท การสอนคุกกิ้ง คลาส การแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ เป็นต้น
“ด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาด บริษัทฯ ได้เตรียมแผนดำเนินการแนะนำโรงแรมทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวย่านหัวหิน แบ่งเป็นกิจกรรมโรดโชว์ ซึ่งได้เตรียมเข้าร่วมงานเทรดแฟร์ในประเทศต่างๆ และการใช้ Direct Sales Call เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงไฮซีซั่น อาทิ โซนยุโรป กับงาน World Travel Market 2008 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่คาดว่าจะสถาบันทางธุรกิจตอบรับเข้าร่วมกว่า 48,111 สถาบันทางธุรกิจ หรือกว่า 197 ประเทศ ทั่วโลก เพื่อแนะนำ และสร้างความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายในตลาดอังกฤษและญี่ปุ่น การร่วมออกบูธในงาน International Tourism Borse (ITB 2009) ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งถือว่าเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่และความสำคัญที่สุดในโลก โดยมีประเทศที่เข้าร่วมมากกว่า 150 ประเทศ และตัวแทนโรงแรมในประเทศไทยกว่า 116 ราย โซนอเมริกา ในงาน Newyork Trave Time ประเทศสหรัฐอเมริกา และโซนเอเชีย กับงาน WTB Asia สร้างการรับรู้ในกลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มไมซ์ในตลาดเอเชียแปซิก เพื่อเสริมตลาดท่องเที่ยวในช่วงกรีนซีซั่นอีกด้วย”
“นอกจากนี้ ยังดำเนินการจัดทำโปรโมชั่นที่เน้นการจัดแพ็คเกจให้มีรูปแบบที่หลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่ม อาทิ Weekday Promotion — ที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ Backpack ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวในช่วงวันธรรมดา, Romance Getaway และ Magic of Love — เน้นเจาะกลุ่มคู่รัก คู่แต่งงานที่เดินทางไปฮันนีมูนในต่างประเทศ, Wedding — เจาะตลาดกลุ่มคู่รัก คู่แต่งงาน ที่ต้องการใช้สถานที่ในการจัดงานในระดับไฮเอนด์, Golf — เจาะกลุ่มนักธุรกิจตลาดไมซ์ และนักท่องเที่ยวแบบ Expat ที่ต้องการพักในระดับไฮเอนด์และเดินทางเพื่อเล่นกอล์ฟในย่านหัวหิน, Family เน้นเจาะกลุ่มครอบครัวที่ต้องการใช้เวลาว่างในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อผ่อนคลายและดื่มด่ำบรรยากาศการพักผ่อนกับครอบครัว, และโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลต่างๆ อาทิ New Years Celebration เป็นต้น”
ซึ่งจากการดำเนินกลยุทธ์การตลาดแบบรุกหนักทุกโซนทั่วโลก จะสามารถสร้างยอดการจองเข้าพักได้ประมาณ 55-60% ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของปี แบ่งลูกค้าเป็นกลุ่ม Domestic market 30% และ Overseas market 70% และคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวจะสามารถสร้างยอดจองเข้าพักได้สูงถึง 80% แบ่งเป็นกลุ่ม Domestic market 50% และ Overseas market 50% แน่นอน นายกล้า กิจการ กล่าวสรุป
“ทั้งนี้ จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในปีผ่านมาประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น 5.43% หรือประมาณ 11.5 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรป อเมริกา เอเชียใต้ โอเซียเนีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวของหัวหินมีการเติบโตขึ้นถึงประมาณ 5.17% เปรียบเทียบกับปี 2549 ที่มียอดนักท่องเที่ยวประมาณ 2.3 ล้านคน ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรป อาทิ อังกฤษ เยอรมัน เดนมาร์ก สวีเดน เบลเยี่ยม เดินทางมาเพื่อพักผ่อน สปา และเล่นกอล์ฟเป็นหลัก ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Backpack ที่มีระยะเวลาในการท่องเที่ยวสั้น ประมาณ 2-3 วัน และมียอดค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 2,500 บาทต่อวัน และกลุ่ม Expat ที่มีระยะเวลาท่องเที่ยวนานประมาณ 7-10 วัน โดยมียอดค่าใช้จ่ายระหว่างวันประมาณ 30,000 บาท และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 5-10% ในปี 2551 นี้”
ด้านตลาดโรงแรมและการบริการ มีอัตราเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเน้นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโรงแรมในสไตล์บูติกโฮเต็ลที่หรูหรามีระดับ เพื่อสร้างความโดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น เน้นรูปแบบการดำเนินธุรกิจการตลาด เพื่อเจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ตและตลาดคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้องการรูปแบบการตอบสนองและมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีจำนวนห้องพักระดับกลาง- พรีเมี่ยมที่เปิดใช้บริการประมาณ 710 ห้อง และคาดว่าในปี 2551 จะมีจำนวนห้องพักที่สามารถเปิดใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 580 ห้อง และในปี 2552 จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 800 ห้อง ทั้งในรูปแบบ บูติกโฮเต็ลและแบบวิลล่า แอนด์ สวีท เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์ : -
คุณพรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา
โทรศัพท์ 0-2204-8210 หรือ 086-813-1981
คุณประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน
โทรศัพท์ 0-2204-8216 หรือ 081-586-2813
บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด:-
คุณภาพันธ์ จิตรนุสนธิ์
Senior Marketing & PR Executive
โทร. 0-2661-6800 ต่อ 205 หรือ 086-577-2778
สำนักงานขาย โทรศัพท์ 02-661-6800 ต่อ 606
www.oceanproperty.co.th