ผู้ถือหุ้น FPI โหวตหนุนมติจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 64 ในอัตราหุ้นละ0.07 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ 6 พ.ค.65 พร้อมจ่ายเงินสด 20 พ.ค.นี้ รวมทั้งปีจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินปันผล 176.76 ล้านบาท ฟากเอ็มดี "สมพล ธนาดำรงศักดิ์" ระบุแนวโน้มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ปี 65 เป็นขาขึ้น ดันออเดอร์ทะลัก ตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ2.4 พันล้านบาท หนุนผลงานทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) FPI เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 เพิ่มอีกเป็นจำนวนหุ้นละ 0.07 บาท จากผลการประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯซึ่งถือหุ้นรวมจำนวนทั้งสิ้น 1,473,029,934 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายในครั้งนี้ 103,112,095.38 บาท
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่บริษัทฯ ได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วจำนวน 0.05 บาท สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 จะรวมเป็นเงินปันผลจ่ายในปี 2564 ทั้งสิ้นจำนวนหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิน 176,763,592.08 บาท รวมทั้งให้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 (Record Date) และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายใน วันที่ 20 พฤษภาคม 2565
"ในปี2564 บริษัทฯ สามารถสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีกำไรสุทธิ 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 899% และเป็นระดับกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นการขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจรวมถึงมีความเชื่อมั่นในการบริหารงานมาโดยตลอด ขณะที่ในปีนี้ บริษัทฯหวังว่าจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรในระดับที่น่าพอใจอีกครั้ง"
นายสมพลกล่าวต่อถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ประเมินว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดี และน่าจะยังเป็นขาขึ้นของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายปีนี้อยู่ที่ 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส1/2565 ภาพรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และมีคำสั่งซื้อ (Order)เข้ามาจำนวนมากจนบริษัทฯผลิตไม่ทันและต้องจ้างผลิตเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้าเพิ่มอีก 5 เครื่อง แบ่งเป็นเครื่องที่ใช้ในประเทศอินเดีย 2 เครื่อง และใช้ในประเทศไทย 3 เครื่อง
โดยเฉพาะบริษัท FPI AUTO PART INDIA PRIVATE LIMITED ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศอินเดีย ดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์,บริการรับออกแบบผลิตภัณฑ์และผลิตแม่พิมพ์พลาสติก, รับจ้างฉีด, ชุบโครเมียม, พ่นสีและประกอบชิ้นงานทุกประเภท ปัจจุบันมีการฟื้นตัวอย่างคึกคัก และมีออเดอร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อน ส่งผลให้มีมูลค่างานในมืออยู่แล้วกว่า 810 ล้านรูปี
รวมทั้ง ปัจจุบันมียอดคำสั่งซื้อในมือ (Backlog) ทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า800 ล้านบาท โดยทยอยรับรู้ในปี 2565 ประมาณ 450 -500 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป ขณะเดียวกันมีแผนเตรียมยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีก 300-400 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะประมูลได้ประมาณ 50% ขณะเดียวกันธุรกิจงานชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ (Original Equipment Manufacturer : OEM) คาดว่าจะมีออเดอร์เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน ส่วนธุรกิจบริการให้เช่าแม่พิมพ์มีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการที่มีเพิ่มขึ้นทั้งจากประเทศปากีสถาน เปรู บราซิล เป็นต้น ดังนั้น น่าจะสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้สามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้ง