KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) ร่วมกับ Lombard Odier (ลอมบาร์ด โอเดียร์) พันธมิตรทางธุรกิจ ไพรเวทแบงก์ระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัว 3 กองทุนแห่งอนาคต ใน "K-ALLROAD Series" ได้แก่ K-ALLROAD-UI, K-ALLGROWTH-UI และ K-ALLENHANCE-UI นวัตกรรมการลงทุนระดับโลกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมั่นคงและควบคุมการขาดทุนได้ในทุกสภาพเศรษฐกิจให้แก่ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Self-Driving on All Roads" เชื่อมโยงประสบการณ์การลงทุนกับการขับขี่ยานยนต์อัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนสู่ทุกเป้าหมายอย่างรวดเร็ว สะดวกสบายและปลอดภัย พร้อมผนึก EVme แพลตฟอร์มให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยร่วมส่งมอบประสบการณ์ใช้งานจริงให้แก่ลูกค้า
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group - Executive Chairman ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนต่างประสบกับความท้าทายในการบริหารจัดการการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการและคำปรึกษาด้านการบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย เรามุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมการลงทุนที่ทันสมัยและตอบโจทย์การลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว โดยยึดหลักการลงทุนแบบ Risk-Based Asset Allocation หรือ การลงทุนที่ยึดหลักการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่พิจารณาความเสี่ยงของสินทรัพย์เป็นหลัก ซึ่งครั้งนี้เราได้นำนวัตกรรมการลงทุนระดับโลกเสนอแก่ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงเป็นครั้งแรกในประเทศไทยผ่าน 3 กองทุนภายใต้ K-ALLROAD Series ได้แก่ K-ALLROAD-UI, K-ALLGROWTH-UI และ K-ALLENHANCE-UI ที่มาพร้อมสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม ควบคู่กับกลไกบริหารจัดการให้ความเสี่ยงของพอร์ตให้อยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในทุกสภาพเศรษฐกิจ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องจัดการใดๆ ในขณะที่ผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่เพียงล็อคเป้าหมายและปรับตามสถานการณ์ เปรียบได้กับยานยนต์อเนกประสงค์อัจฉริยะที่มีระบบขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง (Self-Driving Mode) และพร้อมรับมือกับทุกสภาพถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3 กลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนกองทุน K-ALLROAD Series ให้พร้อมพิชิตทุกสภาวะตลาด คือ
1. ความอเนกประสงค์ที่ได้รับการออกแบบมาให้พร้อมเผชิญกับทุกสภาวะเศรษฐกิจ ผสานทุกส่วนผสมในทุกประเภทสินทรัพย์ ทั้งในสินทรัพย์ดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน และหุ้น รวมทั้งสินทรัพย์ใหม่ๆ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารอ้างอิงผลตอบแทนจากเงินเฟ้อ และความผันผวนของตลาด ในขณะเดียวกันก็ยังกระจายการลงทุนในทุกภูมิภาคและอุตสาหกรรมทั่วโลก พร้อมสัดส่วน การลงทุนที่สมดุลด้านความเสี่ยง และเหมาะสมกับโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจต่างๆ ในแต่ละวัฏจักร
2. ความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยง ด้วยกลไกอัจฉริยะที่ทำโดยอัตโนมัติ ตามกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (Rule Based Management) ซึ่งไม่ขึ้นกับการคาดการณ์หรือมีการตัดสินใจจากอารมณ์ความรู้สึกของผู้จัดการกองทุน การกำหนดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถูกจัดให้สมดุลทั้งด้านความเสี่ยงและความเหมาะสมกับโอกาสที่จะเกิดในสภาวะเศรษฐกิจต่างๆ รวมถึงในแต่ละวัฏจักรเศรษฐกิจด้วย เช่น การเพิ่มอัตราทดที่คล้ายกับการกู้ยืมมาลงทุนซึ่งเปรียบเสมือนเทอร์โบ ชาร์จ ที่จะทำงานในช่วงถนนเรียบเพื่อเร่ง สปีดให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องแลกกับความปลอดภัย ในขณะเดียวกัน มีระบบตรวจจับความเสี่ยงและระบบสั่งการอัตโนมัติให้มีการลดอัตราทด หรือให้ถือเงินสดเพิ่มขึ้น เสมือนกับเซนเซอร์ตรวจจับรถหรือสิ่งกีดขวางด้านหน้า ให้ลดความเร็วลงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และระบบการจัดการความเสี่ยงช่วงขาลง (Drawdown management) เปรียบเหมือนถุงลมนิรภัยที่ช่วยจัดการกับความเสียหายหรือลดผลกระทบที่เกิดจากการขาดทุนให้อยู่ในกรอบที่กำหนดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจหรือช่วงที่ตลาดผันผวนสูง
3. กำหนดเป้าหมายได้ตามความเสี่ยง ผ่าน 3 กองทุน คือ K-ALLROAD-UI, K-ALLGROWTH-UI และ K-ALLENHANCE-UI ซึ่งมีความแตกต่างกันตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
K-ALLROAD-UI | K-ALLGROWTH-UI | K-ALLENHANCE-UI | |
เป้าหมายผลตอบแทน | Cash +4% | Cash +7% | Cash +9% |
คาดการณ์ความผันผวน | 5% | 9% | 12% |
โอกาสขาดทุนสูงสุดใน 1 ปี | 10% | 17.5% | 22.5% |
อัตราทดโดยเฉลี่ย | 1.4-1.6 เท่า | 2.4-2.8 เท่า | 3.0-3.6 เท่า |
นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนหลักของ 3 กองทุนภายใต้ชื่อ K-ALLROADS Series ซึ่งเป็นกองทุนเดียวกันกับ LO FUNDS - ALL ROADS Series ในต่างประเทศสามารถสร้างผลตอบแทนและควบคุมความผันผวนได้ดีสม่ำเสมอ ด้วยคอนเซ็ปต์ Self-Driving on All Roads ทำให้ KBank Private Banking เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์การลงทุนนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนตามที่คาดหวังได้อย่างต่อเนื่องในทุกวัฎจักรเศรษฐกิจ และคาดว่ากองทุน K-ALLROADS Series จะมีผลตอบแทนคาดหวังสูง และโอกาสที่จะขาดทุนสูงสุดในรอบ 1 ปี ตามที่คาดการณ์ไว้
นายวินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner and Chief Executive Officer, Asia ลอมบาร์ด โอเดียร์ กล่าวว่า ในโลกที่ตลาดมีความผันผวนและซับซ้อนเช่นปัจจุบัน นักลงทุนต่างมองหาประสบการณ์การลงทุนที่ราบรื่นในทุกสภาวะตลาด ปีนี้ถือเป็นปีที่ 10 ที่เราได้นำเสนอกลยุทธ์การลงทุนแบบ ALL ROADS ซึ่งได้ทดลองและทดสอบมาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง โดยกลยุทธ์ดังกล่าวมีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ และปรับสัดส่วน รวมถึงความเสี่ยงตามสภาวะตลาด เพื่อให้สามารถรักษาเสถียรภาพของพอร์ตได้ในระยะยาว ได้รับการยอมรับจากผู้ลงทุนสถาบันในหลายประเทศชั้นนำทั่วโลก เช่น กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกองทุนของสถาบันการศึกษาว่าสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจได้แม้ในช่วงวิกฤติทางการเงิน สามารถสร้างผลตอบแทนและควบคุมความผันผวนได้ดีสม่ำเสมอ และ Lombard Odier เชื่อมั่นว่ากลยุทย์นี้จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้าบุคลลสินทรัพย์สูงในประเทศไทย ได้เช่นเดียวกัน
นายจิรวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากนี้ KBank Private Banking ได้จับมือกับ EVme แพลตฟอร์มให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าเชื่อมประสบการณ์การลงทุนนี้ กับนวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ลูกค้าได้สัมผัส ทดลองขับและใช้งานจริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Self-Driving on All Roads' ตอกย้ำนวัตกรรมการลงทุนแห่งอนาคตของกองทุน K-ALLROAD Series กองทุนขับเคลื่อนอัตโนมัติที่จะพานักลงทุนถึงเป้าหมายได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยในทุกสภาวะตลาด