กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Insurer Financial Strength (IFS)) แก่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (MTL) ที่ ‘BBB+’ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ที่ ‘AA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นบวก อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินใช้ประเมินความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทประกันเทียบกับภาระหนี้สินต่อผู้เอาประกัน และยังสะท้อนถึงความสามารถในการจ่ายภาระหนี้สินต่อผู้เอาประกันของบริษัทประกันตรงตามระยะเวลาที่กำหนด และค่าสินไหมทดแทนที่คาดว่าจะได้รับจากบริษัทประกันของผู้ร้องเรียนค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่บริษัทประกันหยุดการจ่ายคืนเงิน หรือมีการยับยั้งการจ่ายคืนเงินให้แก่ผู้เอาประกันเกิดขึ้น
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของ MTL ในประเทศ ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของ MTL เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นทั้งในประเทศและในภูมิภาค รวมถึงการมีช่องทางการจัดจำหน่ายหลายช่องทางและมีประสิทธิภาพและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังพิจารณารวมถึงความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคและการดำเนินงานจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของ MTL คือ Fortis Insurance International N.V. (Fortis) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือหุ้นทั้งหมดโดย Fortis Insurance N.V. (อันดับเครดิตที่ ‘AA-’ (AA ลบ) / แนวโน้มมีเสถียรภาพ)
แนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นบวกสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ ว่า MTL จะสามารถพัฒนาและได้รับประโยชน์จากความร่วมมือในการทำงานกับ Fortis และธนาคารกสิกรไทยซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศไทย (อันดับเครดิตที่ ‘BBB+’ /‘AA(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ) ในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการตลาดและผลประกอบการ โดยไม่กระทบกับระดับเงินกองทุนของบริษัท MTL กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบการควบคุมความเสี่ยงภายในร่วมกับ Fortis ซึ่งความสามารถในการนำมาตรการการควบคุมความเสี่ยงที่เข้มงวด และมีประสิทธิภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานได้นั้นน่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในอนาคต
ถึงแม้ว่าการแข่งขันในธุรกิจการประกันชีวิตภายในประเทศจะสูง แต่ MTL สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดโดยวัดจากเบี้ยประกันภัยรับรวม และสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดให้อยู่ใน 5 อันดับแรกของประเทศได้ ผลประกอบการของบริษัทแสดงถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 อัตราผลตอบแทนต่อเงินทุน (ROE) และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25.1% และ 3.2% ตามลำดับ จาก 18.8% และ 2.3% ในปี 2549 ผลประกอบการโดยรวมของ MTL ในปี 2551 คาดว่าจะยังสามารถรักษาอยู่ในระดับนี้ได้ ซึ่งสะท้อนถึงความได้เปรียบของบริษัทในด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและการมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่หลากหลาย
เงินกองทุนของ MTL อยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับระดับเงินกองทุนขั้นต่ำที่ต้องดำรงตามกฎหมายภายในประเทศ และยังสูงกว่าระดับมาตรฐานสากลของยุโรปซึ่ง MTL ใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงภายใน ณ สิ้นปี 2550 อัตราส่วนเงินกองทุนภายในประเทศของบริษัทอยู่ที่ระดับสูงกว่า 700% ซึ่งสูงกว่าระดับ 100% ของอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำภายในประเทศที่ต้องดำรงไว้
อย่างไรก็ตาม อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังพิจารณาถึงการแข่งขันที่สูงระหว่างบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ในธุรกิจประกันชีวิตในประเทศซึ่งทำให้อัตราส่วนกำไรอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ในขณะที่ผลกำไรโดยรวมของ MTL ปรับตัวดีขึ้น แต่บางผลิตภัณฑ์ยังมีอัตราผลตอบแทนที่ติดลบ โดยผู้บริหารของบริษัทได้มีการดำเนินการเพื่อปรับปรุงเรื่องดังกล่าว
เช่นเดียวกันกับบริษัทประกันชีวิตอื่นในประเทศแถบเอเชีย MTL ต้องเผชิญกับปัญหาการบริหารสินทรัพย์ และหนี้สินอันเนื่องมาจากการที่ตลาดเงินและตลาดตราสารหนี้ภายในประเทศยังพัฒนาไม่เต็มที่ ส่วนต่างระหว่างระยะเวลาครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สินยังคงสูง แต่ปัญหานี้ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการจัดการบริหารในส่วนของเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ณ สิ้นไตรมาสสามปี 2550 เงินลงทุนส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยและรัฐวิสาหกิจ และอีก 24.7% เป็นเงินลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนและธนาคารซึ่งส่วนใหญ่มีอันดับเครดิตที่ค่อนข้างสูง และอีก 8.7% เป็นเงินลงทุนในหุ้นทุน
MTL ก่อตั้งขึ้นในปี 2494 เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 7.0% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งระบบ ในส่วนของผู้ถือหุ้น Fortis ถือหุ้นโดยตรงใน MTL 25% และยังถือหุ้นผ่าน Muang Thai Fortis Holding Company Limited (MTFH) อีก 15% ในขณะที่กลุ่มครอบครัวล่ำซำถือหุ้นใน MTL ทั้งสิ้น 49% โดยผ่านทางการถือหุ้นใน MTFH
ติดต่อ
ดรุณี เพียรมานะกิจ, กรุงเทพฯ + 662 655 4752
Jeffrey Liew, ฮ่องกง + 852 2263 9939
Vincent Milton, กรุงเทพฯ + 662 655 4759
การเปิดเผยข้อมูล: บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ถือหุ้นจำนวน 10% ของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีผู้ถือหุ้นใดนอกเหนือจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัดแห่งประเทศอังกฤษที่มีส่วนในการดำเนินงานและการจัดอันดับที่จัดโดยบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
หมายเหตุ : อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Ratings) ใช้วัดความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทประกันเทียบกับภาระหนี้สินต่อผู้เอาประกันโดยการเปรียบเทียบกับบริษัทประกันภายในประเทศเท่านั้น อันดับความความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศใช้วัดความสามารถในการจ่ายภาระหนี้สินต่อผู้เอาประกัน โดยเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตที่ดีที่สุดของประเทศนั้น ๆ ในทุกภาคธุรกิจและชนิดของภาระหนี้สินอื่น อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศใช้สำหรับนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศเท่านั้น และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศสำหรับแต่ละประเทศ เช่น ‘AAA(tha)’ สำหรับประเทศไทย อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน