นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ตรวจเยี่ยมฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ พร้อมหารือข้อราชการด้านแรงงานกับ นายชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ โดย นายสุชาติ กล่าวว่า ผมขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูตไทย ณ สิงคโปร์ ที่ให้การดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี การที่แรงงานไทยได้มีโอกาสมาทำงานที่สิงคโปร์จะเป็นการช่วยพัฒนาทักษะฝีมือ สร้างรายได้ ช่วยยกระดับฐานะแก่ครอบครัว จากการหารือในวันนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขยายตลาดแรงงาน เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแรงงานไทยได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยมีงานทำ มีอาชีพ นำรายได้เข้าประเทศและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย
โอกาสนี้ รมว.แรงงาน และคณะ ได้พบปะอาสาสมัครแรงงานไทยในประเทศสิงคโปร์ พร้อมให้โอวาท และมอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงาน โดยกล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฝากความห่วงใยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงานของสำนักงานแรงงานไทยและอาสาสมัครแรงงานในต่างประเทศทุกคน ที่ได้ปฏิบัติงานในการประสานดูแลความช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างประเทศให้ได้รับข้อมูลข่าวสาร สิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง และความปลอดภัยในการทำงาน จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้พบปะทุกท่าน เพื่อแสดงความขอบคุณต่อการช่วยเหลืองานกระทรวงแรงงาน โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ถือเป็นงานจิตอาสาอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานแรงงานในประเทศสิงโปร์ พบว่า ปัจจุบัน มีแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศสิงคโปร์เป็นจำนวนเกือบ 20,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานในตำแหน่งคนงานทั่วไป ช่างประกอบท่อ พนักงานฝ่ายผลิต ช่างเชื่อม คนงานก่อสร้าง คนงานผลิตผลิตภัณฑ์ทั่วไป พนักงานทั่วไป ช่างประกอบโครงสร้างเหล็ก ช่างสี โฟร์แมน ฯลฯ ขณะที่นายจ้างยังมีความต้องการจ้างงานมากสุดใน 3 สาขา คือ ช่างเชื่อมในภาคงานอู่ต่อเรือ รองลงมาเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในภาคอุตสาหกรรม และแรงงานภาคก่อสร้างระดับฝีมือ จึงเป็นโอกาสดีของแรงงานไทยที่จะช่วยขยายตลาดแรงงานให้สามารถไปทำงานในสิงคโปร์ได้มากขึ้น เนื่องจากสิงคโปร์มีโครงสร้างก่อสร้างทั้งที่พักอาศัยของรัฐ รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่พักอาศัย โครงการงานด้านสาธารณสุข งานโครงสร้างพื้นฐานงานต่าง ๆ เช่น รถไฟฟ้า ตลอดจนการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการปรับปรุงเตรียมความพร้อมสำหรับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายอีกด้วย