บมจ.เทคโนเมดิคัล ("TM") โชว์ฟอร์มเด่น งบไตรมาส 1/2565 กลับมาผงาด ส่งสัญญาณฟื้นตัว โชว์กำไรสุทธิ 5.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,751.6% (YoY) รายได้รวม 156.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% เป็นผลจากยอดขายอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันเกี่ยวข้องกับการรักษาและป้องกันโรคโควิด-19เพิ่ม ส่งผลดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง ด้าน CEO "สุนทรี จรรโลงบุตร" เดินหน้าเจาะตลาดปั้มยอดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น มั่นใจจะโกยรายได้ยอดขายออนไลน์ 30 ล้านบาทในปีนี้ ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ "TM Herb" และ "THE PARENTS" ในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อปี2565 TM ปั้นรายได้รวม แตะ 700-750 ล้านบาท
บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ ("TM") แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565) ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุปกรณ์การแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคโควิดเพิ่มสูงขึ้น อาทิ สินค้าประเภทถุงมือ เสื้อกาวน์ ชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) และสายดูดเสมหะระบบปิด (Close Suction)เป็นต้น ส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทฯ อยู่ที่ 156.29 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 6.8%(YoY) และมีกำไรสุทธิ 5.74 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 1,751%(YoY) โดยจะเห็นได้จากไตรมาสแรกบริษัทฯมียอดขายอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง จำนวน 148.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.8
ทั้งนี้ หากพิจารณาในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากในปี 2564 ค่าเงินบาท เมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 30.00 - 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ในปี 2565 ค่าเงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยอยู่ที่ 32.25 - 33.81 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินบาท ที่อ่อนค่าลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายนำเข้าที่สูงขึ้น ได้แก่ ค่าขนส่ง ภาษี ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง
ขณะเดียวกันยอดขายอุปกรณ์ผ่าตัดทั่วไป มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จากกลยุทธ์การขยายตลาด ในกลุ่มสินค้าดังกล่าวทำให้สินค้ากลุ่มนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าสินค้ากลุ่มผ่าตัดหัวใจ ส่งผลให้บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเจาะตลาดสำหรับสินค้าผ่าตัดทั่วไปในอนาคตเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ลดลงจากเดิม 1.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.1 จากการยกเลิกสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากลุ่มผ่าตัดหัวใจตั้งแต่ปี 2562
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เทคโนเมดิคัล "TM" เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในไตรมาส2/ 2565 ว่า บริษัทยังคงมุ่งนั่นในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด รวมถึงอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ-อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านช่องขายทางการตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อเข้าถึงลูกค้า B2C เพิ่มขึ้น จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้า B2B
โดยช่วงปลายกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทฯเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านการ Live สด ใน Facebook ,YouTube เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ป้องกันการติดเชื้อ- อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ จากเดิมที่จำหน่ายผ่าน www.Lazada.co.th, www.tmcare-shop.com, facebook.com/TMCARESHOP และLine@ : @tmcareshop โดย Live ผ่านช่องทางการจำหน่ายสินค้าของ "TM" ที่เพจ TM Care Shop Live ซึ่งต้องยอมรับว่าได้การตอบรับที่ดี ส่งผลให้บริษัทฯสามารถขยายฐานในกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับปีนี้ที่ระดับ 30 ล้านบาท โดยในเร็วๆ นี้ บริษัทฯเตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากสมุนไพรไทยเพื่อดูแลสุขภาพ ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกระท่อม กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน และ กระชาย ภายใต้แบรนด์ "TM Herb" เข้ามาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของใบข้าวอ่อนไทย (Chory) ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ และ เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ทั้งยังช่วยให้นอนหลับสนิท ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/2565
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ประเภท Probiotic จากประเทศเกาหลี เพื่อการต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีการหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มคนรักสุขภาพ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจของ TM ในปีนี้ ประกอบกับผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปี 2565 ที่วางไว้ประมาณ 700 - 750 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ ภายใต้ โครงการ "THE PARENTS" นั้น พร้อมเปิดให้บริการเฟสแรก ในส่วนของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ Nursing Home ภายในไตรมาส 4/2565 ขณะที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง Rehabilitation Hospital นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบภายในปี 2566 ซึ่งในอนาคตจะผลักดันให้ THE PARENTS เป็นศูนย์กลาง (Hub)ของภูมิภาคในการให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรทุกมิติ