บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) แกร่ง!เปิดผลงานงวดไตรมาส 1/2565 กำไรสุทธิแตะ 9.87 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 0.30 % จากงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารยังเติบโตได้ดีจากพฤติกรรมผู้บริโภคยังคงนิยมสั่งอาหารออนไลน์ ขณะที่ราคาสินค้า เพิ่มขึ้น ฟากผู้บริหาร"อภิรัตน์ ธีระรุจินนท์" ระบุผลิตภัณฑ์กระดาษมีแนวโน้มความต้องการมากขึ้น เดินหน้าพัฒนารูปแบบใหม่ให้ตรงตามความต้องการลูกค้า มั่นใจช่วยสร้างรายได้เพิ่ม วางเป้าปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10%
นายอภิรัตน์ ธีระรุจินนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด(มหาชน) TPLAS บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงพลาสติกบรรจุอาหารและถุงพลาสติกหูหิ้ว ภายใต้ตราสินค้า "หมากรุก" ฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสินค้า "Vow wrap" และกล่องกระดาษบรรจุอาหาร "BEATBOX" เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.87 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 0.30 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 9.84 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 142.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.81 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 128.61 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยังคงนิยมซื้ออาหารกลับบ้านและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน มีการกระจายได้ง่ายในวงก้วางส่งผลให้การสั่งอาหารในรูปแบบออนไลน์ ยังมีการเติบโตได้ดีต่อเนื่อง รวมถึงการที่ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาขายสินค้าก็ปรับตัวสูงขึ้นตามด้วย ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ที่ทำจากระดาษได้รับการตอบรับที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างน่าสนใจ
"ในไตรมาสที่1/2565 บริษัทฯยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ในระดับที่ดี โดยสามารถควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ประเมินว่าแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส2/2565 ยังอยู่ในทิศทางที่ดีได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด และ ปรับปรุงกลยุทธ์ระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง"
นายอภิรัตน์ กล่าวต่อถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ว่ายังมีทิศทางการเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตในปีนี้ จะมาจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารยังคงได้รับอานิสงส์จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง โดยจะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำจากกระดาษ ซึ่งมีการเพิ่มเติมรูปแบบ เช่น ถาดใส่ขนมหวาน ถ้วยไซส์อื่นๆ เป็นการเพิ่มไซส์ให้มีความหลากหลายต่อการนำไปใช้งานได้มากขึ้น โดยจะทยอยออกมา และคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี รวมทั้งจะมีการพัฒนาระบบรับคำสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มาใช้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าช่วยสนับสนุนยอดขายให้เติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน
นอกจากนี้บริษัทฯยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับสูงและมีความมั่นคง โดยเฉพาะการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบที่มีความผันผวนด้านราคาสูงตามราคาตลาดโลก ทั้งน้ำมัน และเม็ดพลาสติก ซึ่งบริษัทฯยังสามารถควบคุมได้ดี