'บมจ.โอสถสภา (OSP)' เผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1Q'65 ทำรายได้จากการขายนิวไฮ 7,472 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 750 ล้านบาท โดยกำไรจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้น 8.1% หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและเงินปันผลรับจากเงินลงทุนในบริษัทอื่น เดินหน้ากลยุทธ์รับมือกับความท้าทายจากต้นทุนที่สูงขึ้นด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่องและการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ พร้อมสร้างการเติบโตผ่านโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชงกัญชา สร้างความร่วมมือทางการตลาดร่วมกับพันธมิตร และต่อยอดธุรกิจผ่านแต้มเอ็ม
นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2565 (มกราคม-มีนาคม) นั้น แม้ธุรกิจมีความเสี่ยงและความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากแรงกดดันของต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นและสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่บริษัทฯ ยังเติบโตทะลุเป้า สร้างสถิติรายได้จากการขายสูงสุด 7,472 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 750 ล้านบาท โดยกำไรจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้น 8.1% หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและเงินปันผลรับจากเงินลงทุนในบริษัทอื่น
โอสถสภารักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่ง 54% โดย มีแบรนด์เอ็ม-150 เป็นเบอร์ 1 ในตลาด ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์นั้น แบรนด์ 'ซีวิท' เป็นผู้นำตลาดและทำสถิติส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 38% ตอกย้ำความสำเร็จตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ทำยอดขายเติบโตต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลนั้น ก็มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ ตลาดต่างประเทศก็มีอัตราการขยายตัว ที่โดดเด่นมาก เติบโตเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 58% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีตลาดหลักอยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน
"บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการขยายธุรกิจต่างๆ ในปี 2565 และขณะนี้มีการดำเนินการได้ตามแผน ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญจากการปรับตัวสูงขึ้นของต้นทุนต่างๆ อาทิ ต้นทุนด้านเชื้อเพลิง การขนส่ง แต่บริษัทฯ ได้เตรียมแผนบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งด้านการตลาด การจัดจำหน่าย และการจัดการต้นทุนและประสิทธิภาพการผลิต" นางวรรณิภา กล่าว
หนึ่งในกลยุทธ์การขยายธุรกิจในปีนี้ คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสมกัญชงกัญชาที่มีคุณสมบัติโดดเด่นจากสินค้าอื่นๆ ในตลาด โอสถสภาร่วมมือกับยันฮี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยกัญชา รวมทั้งเป็นผู้ริเริ่มตลาดวิตามิน วอเตอร์ในประเทศไทย เปิดตัว "ยันฮี น้ำกัญชาผสมวิตามิน" กลิ่นลาเวนเดอร์ มิกซ์ เบอร์รี่ ชูจุดเด่นน้ำดื่มที่คิดค้นและพัฒนาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ สกัดจากใบกัญชาแท้ มีวิตามินบี 12 ช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและสมองให้ผ่อนคลายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลผสมกัญชงเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน โดยได้พัฒนาแป้งเย็นผสมน้ำมันเมล็ดกัญชงเป็นครั้งแรกของโลก ภายใต้แบรนด์ "เอ็กซิท"
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการต่อยอดสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านแต้มเอ็ม ซึ่งมีฐานลูกค้าประจำของเอ็ม-150 เป็นสมาชิกอยู่กว่า 7 ล้านคน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่วมมือกับไทยพาณิชย์ โพรเทค ช่วยกลุ่มคนทำงานและผู้ใช้แรงงานเข้าถึงประกัน มอบความคุ้มครองชดเชยรายได้และอุบัติเหตุสุดคุ้ม ด้วยเบี้ยประกันเพียงวันละ 1-2 บาท ผ่านไลน์ แอพพลิเคชั่น 'แต้มเอ็ม' และยังได้ผนึกพลังกับเอสซีจี จัดแคมเปญ 'ฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย ปี 2' ขยายช่องทางเข้าถึงกลุ่มช่างปูน ผู้รับเหมา ซึ่งสามารถร่วมกิจกรรมแต้มเอ็ม เพื่อสะสมแต้มได้ถึง 3 เท่า สามารถนำแต้มที่ได้ไปแลกรับหรือแลกซื้อของพรีเมียมคอลเลคชั่นพิเศษสุด หรือร่วมลุ้นรางวัลใหญ่จากแต้มเอ็มได้ตลอดทั้งปี