บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) รายงานกำไรสุทธิ Q1/65 ส่วนที่เป็นของบริษัทฯ แตะ 503.35 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 2,297.76 ล้านบาท ฟากซีอีโอ "สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" ระบุเดินหน้าลุยธุรกิจตามโรดแมป ส่งซิกแนวโน้ม Q2/65 สัญญาณดีจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม มีกระแสลมแรงกว่าคาด ขณะที่งาน EPC มีแบ็คล็อกตุนไว้ 4,500 ล้านบาท พร้อมทั้งรับรู้รายได้ธุรกิจกัญชงเต็ม ไตรมาส ลุยตัดช่อดอกล็อตแรกวันที่ 13 พ.ค.นี้ ขณะที่บริษัทย่อย "จี.เค. ไบโอ เอ็กซ์แทรคชั่น" ได้รับใบอนุญาตโรงสกัดสาร CBD จาก อย. ส่วนบริษัทย่อย "จี.เค. สมาร์ท ฟาร์มมิ่ง" ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงเพิ่มเติมทำให้แผนธุรกิจบรรลุตามเป้า มั่นใจหนุนผลงานปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/2565 ส่วนที่เป็นของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 503.35 ล้านบาท และมีรายได้รวมเท่ากับ 2,297.76 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีกำไรในทิศทางบวก เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายได้รับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวมถึงได้เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงในล็อตแรก ขณะเดียวกันการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
"แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2565 จะมีทิศทางที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่น จากไตรมาส 1/2565 เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ได้รับอานิสงส์จากกระแสลมที่พัดแรงและเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นด้วย และยังทยอยรับรู้รายได้จากงาน EPC ที่ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯ มีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานประมาณ 7-10% ของมูลค่างานทั้งหมด" ดร.สมบูรณ์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวต่อถึงธุรกิจกัญชงว่า ขณะนี้บริษัทย่อย "จี.เค. ไบโอ เอ็กซ์แทรคชั่น" ได้รับใบอนุญาตโรงสกัดสาร CBD จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินหน้านำผลผลิตไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร-เครื่องสำอางและยาสมุนไพร ออกจำหน่ายสู่ตลาดตามแผนที่ วางไว้
ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตฯ แล้ว บริษัทฯ จะเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้เพื่อนำผลผลิตที่ได้จากการสกัดกัญชงไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารหรือเครื่องสำอาง รวมถึงยาสมุนไพร ภายใต้ข้อกำหนดตามที่ทางสำนักงานอย.อนุญาต เพื่อนำสารสกัดทั้ง CBD Full Spectrum, CBD Distillation และ CBD Isolated ไปใช้ผลิตสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายสำหรับการนำสินค้าออกสู่ตลาด และผลักดันอนาคตให้โตแบบก้าวกระโดดต่อไป
ขณะที่ บริษัท จี.เค. สมาร์ท ฟาร์มมิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL ได้ทยอยตัดช่อดอก กัญชง สำหรับโรงเรือนแห่งที่ 1 ที่อำเภอห้วยบง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อส่งเข้าโรงสกัดและนำมาทำผลิตภัณฑ์ปลายน้ำในส่วนของบริษัทฯ เอง และตัดช่อดอกส่งมอบให้กับลูกค้า ในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นจะทยอยตัดช่อดอกส่วนโรงเรือนที่ 2 ได้ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ เริ่มทยอยรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 และเพิ่มมากขึ้น
ส่วนบริษัท จี.เค. สมาร์ท ฟาร์มมิ่ง จำกัด ได้รับใบอนุญาตในการปลูกกัญชงเพิ่มเติมจากใบอนุญาตเดิม โดยแบ่งเป็นโรงเรือนปิด (Indoor) ขนาดรวมกว่า 5,000 ตร.ม. และ โรงเรือนแบบ Semi Close Greenhouse ขนาดพื้นที่รวม 12,800 ตร.ม. ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจที่ได้ วางไว้อย่างแน่นอน
จาก Roadmap ของบริษัทฯ ที่ได้วางงบลงทุนใน 3 ปี (2565-2567) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 7,000-8,000 ต่อปี โดยแบ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ลงทุนในธุรกิจกัญชง และลงทุนในธุรกิจงานก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้า (Built-to-Suit) รวมถึงการเร่งผลักดันธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนให้ขยายตัว จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือรวมทั้งสิ้น 642 เมกะวัตต์ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ากำลัง การผลิตเพิ่มเป็น 700 เมกะวัตต์ และเพิ่มกำลังการผลิตไปแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 ทำให้มั่นใจธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายการเติบโตทั้งด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ธุรกิจด้านการบริการก่อสร้างครบวงจร โดยบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเติบโตในปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 15% ถือเป็นการเติบโตต่อเนื่องกว่า 11 ปีของบริษัทฯ (นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)