พีดีเฮ้าส์ปลื้มยอดขายงาน PD House Expo 2022 เดือนเดียวโกยยอดขายเฉียด 200 ล้านบาท เผยตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดกระแสตอบรับดีเกินคาด โอ่แบบบ้านกลุ่ม LUXURY มาแรงดันยอดขายโต ชี้ความผันผวนราคาวัสดุตัวเร่งการตัดสินใจผู้บริโภค พร้อมหันเลือกบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพแทนรายย่อย หวั่นราคาบ้านขยับ
น.ส.ถิรพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด (CMO) บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์และมาตรฐานศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เผยว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาพีดีเฮ้าส์ได้จัดงาน PD House Expo 2022 ขึ้นพร้อมกัน ณ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ 27 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด โดยตลอด 1 เดือนของการจัดงานฯ กระแสตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด สามารถกวาดยอดขายบ้านได้ 197 ล้านบาท
"จากตัวเลขยอดขายบ้านเกือบ 200 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าแม้สภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ความต้องการสร้างบ้านบนที่ดินของผู้บริโภคและประชาชนยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะตลาดบ้านสร้างเองในต่างจังหวัด พบว่าบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพมียอดขายเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในส่วนของการสร้างบ้านประหยัดพลังงานและบ้านเพื่อสุขภาพนั้นมีผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจมากขึ้นและทำให้ตลาดเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน"
สำหรับยอดขายบ้านจากการจัดงาน PD House Expo 2022 ที่ผ่านมา หากจำแนกตามกลุ่มราคาที่ลูกค้าตัดสินใจสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ พบว่า ราคาบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป มียอดขายมากที่สุดหรือคิดเป็น 65% รองลงมาเป็นราคาบ้าน 5-10 ล้านบาท คิดเป็น 19% และราคาบ้านต่ำกว่า 5 ล้านบาท คิดเป็น 16% โดยยอดขายบ้านจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน มีสัดส่วนมากเป็นอันดับ 1 แต่หากในเชิงคุณภาพหรือมูลค่าต่อหน่วย พบว่ายอดขายบ้านจากพื้นที่ภาคตะวันออก มีมูลค่าต่อหน่วยสูงที่สุด ยกตัวอย่าง ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาชลบุรี ลูกค้ารายหนึ่งจองสร้างบ้านมูลค่าสูงถึง 45 ล้านบาท"
พร้อมกันนี้ น.ส.ถิรพร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "ความสำเร็จของการจัดงานงานฯ ครั้งนี้ นอกจากความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อพีดีเฮ้าส์แล้ว เหตุผลสำคัญอีกประการก็คือ ความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อราคาค่าก่อสร้างหรือราคาบ้านในอนาคต ผู้บริโภคจึงรีบตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น พร้อม ๆ กับเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพอย่างพีดีเฮ้าส์แทนผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป เพราะมั่นใจว่าเมื่อตกลงเซ็นสัญญาสร้างบ้านแล้ว ราคาบ้านจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือยืนราคาตามสัญญาจนบ้านก่อสร้างแล้วเสร็จ แม้ว่าราคาวัสดุในท้องตลาดจะมีการปรับสูงขึ้นก็ตาม"