บมจ.เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) หรือ SWC อวดผลงานไตรมาส 1/65 สุดหรู! รายได้แตะ 355.62 ลบ. เพิ่มขึ้น 15.31% กำไรสุทธิแตะ 15.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.62% จากงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากรับรู้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศคึกคัก ขณะที่ช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์โตแรง 527.67% ฟากผู้บริหาร "เถกิงพล เหล่าพิสุทธิ์" วางเป้ารายได้ปี 65 รายได้ทะยานต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30% ลุยขยายตลาดทุกช่องทาง เดินหน้ากลยุทธ์กระจายสินค้าร้านค้าปลีก-โมเดิร์นเทรด-แพลตฟอร์มออนไลน์ มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง
นายเถกิงพล เหล่าพิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) SWC ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเคมีเคหะภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน อุตสาหกรรม สาธารณสุขชุมชน เคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร รวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 355.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.31% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 308.41 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 15.75 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 13.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.62% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10.84 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกลยุทธ์การเพิ่มการกระจายสินค้าในทุกช่องทางจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น อาทิการเพิ่มการกระจายสินค้าในช่องทาง ร้านค้าปลีกดั้งเดิม, ห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ และแพลตฟอร์มออนไลน์หลายช่องทาง โดยเลือกช่องทางจัดจำหน่ายให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดเรียงและการมองเห็นสินค้าในทุกช่องทาง อีกทั้งยังมีสินค้าใหม่ในกลุ่มออแกนิคสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงภายใต้ตราสินค้า "เชนการ์ด" เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่มพรีเมี่ยม และเพิ่มสินค้าใหม่ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่องอีกด้วย"
ทั้งนี้ ยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีเคหะภัณฑ์มีอัตราการเติบโตที่ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยรายได้จากการขายในประเทศเติบโตจากช่องทางจำหน่ายธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.28 ส่วนช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีกดั้งเดิมมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.25 และบริษัทยังมีรายได้จากการขายในช่องทางขายเคมีเกษตรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 96.67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในส่วนรายได้จากการขายตลาดส่งออกมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.04 โดยเพิ่มขึ้นจากตลาดส่งออกออสเตรเลียร้อยละ 152.16 ตลาดส่งออกอุตสาหกรรมมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 150.29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นเดียวกัน โดยแบ่งเป็นธุรกิจถั่วภายใต้ตราสินค้า 'มารูโจ้' มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.21 ธุรกิจนมภายใต้ตราสินค้า 'ฮอกไกโด' มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.26 และสำหรับธุรกิจเครื่องดื่ม ภายใต้ตราสินค้า "ซุปเปอร์ไฟต์" มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 313.23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายในช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 527.67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย Facebook ของบริษัทและขายผ่านมาร์เก็ตเพลส อาทิ Shopee Lazada JD Central เพื่อให้สอดรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน โดยมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเนื่องจากบริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมากยิ่งขึ้นเนื่องจากมีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่สามารถเติบโตได้อีกมาก พร้อมกับการรุกขยายตลาดทุกช่องที่สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบกับบริษัทฯ มีกลยุทธ์การกระจายสินค้าทั่วถึงทั้งช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมทั่วประเทศ ห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ และแพลตฟอร์มออนไลน์หลายช่องทาง ซึ่งมั่นใจว่าสินค้าในทุกกลุ่มจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตแข็งแกร่งและมั่นคงต่อไป