'บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN' เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 ทำรายได้รวม 466 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจเต็มที่รับสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หนุนความต้องการสินค้ากลุ่มธุรกิจ Commerce จากแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงมากกว่า 50 รายการ หวังดันสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 15% จากเป้ารวมปีนี้ 2,100 ล้านบาท
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไนไตรมาส 1/2565 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีรายได้รวม 466 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ยังมีศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง จากการจำหน่ายคอนเทนต์ให้แก่ฐานคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ แม้ว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะทำรายได้อยูในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการบริหารจัดการลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อมาสร้างเรตติ้งให้แก่ช่อง JKN18 เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้ชมและสร้างความนิยมให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและผลักดันการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอมเมิร์ซให้มีการเติบโตตามแผนยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจ ที่ต้องการสร้างฐานรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวและเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ ด้วยแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ยังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนโครงสร้างและการจัดทัพธุรกิจให้มีความพร้อมและรองรับโอกาสการดำเนินงานใหม่ๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตให้ JKN ในระยะยาว เป็นผลให้มีค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นผลิตภัณฑ์และการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย จึงทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 51 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ประเมินว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยบริษัทฯ ยังคงนำความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจคอนเทนต์จากการที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์แบบ Output Deal และมีลิขสิทธิ์คอนเทนต์แบรนด์ดังระดับโลกที่พร้อม ตอบสนองความต้องการลูกค้าทั้งกลุ่มผู้ชมชาวไทยและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกได้ในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งทีวีดาวเทียม ทีวีดิจิทัล และออนไลน์ โดยปีนี้ บริษัทฯ เตรียมไปจัดกิจกรรมเพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจนี้ได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจ New S curve ของ JKN ที่จะเริ่มเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตผลิตอาหาร (แบบ อ.2) และได้รับอนุญาตให้เพิ่มประเภทอาหารที่กำหนดคุณภาพมาตรฐาน เช่น ชา, กาแฟ, น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท เครื่องดื่มเกลือแร่ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงการเพิ่มอาหารควบคุมเฉพาะ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชาหรือกัญชง (เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท) ที่ขึ้นทะเบียนอาหารไว้ โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนพัฒนาและออกสินค้าใหม่ที่มีส่วนผสมของกัญชงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม รวมกันมากกว่า 50 รายการ เสริมความแข็งแกร่งด้านแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ พร้อมขยายช่องทางการจัดหน่ายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป