บมจ. โรแยล พลัส ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำมะพร้าว น้ำนมมะพร้าว น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ชานม และ เครื่องดื่มวิตามิน พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 20 พ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,015 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "PLUS"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. โรแยล พลัส เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "PLUS" ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
PLUS ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยสินค้าสามารถแบ่งเป็น 1) กลุ่มน้ำผลไม้ ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำมะพร้าว น้ำนมมะพร้าว น้ำผลไม้ผสมเม็ดแมงลัก น้ำผลไม้ผสมเมล็ดเชีย และ 2) กลุ่มเครื่องดื่มทั่วไป ได้แก่ ชานม เครื่องดื่มวิตามิน และเครื่องดื่มอื่น ๆ โดยมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับจ้างผลิต (Original Equipment Manufacturer: OEM) และยังมีการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Company Brand) เช่น น้ำมะพร้าว ตรา 'Coco Royal' น้ำผลไม้ผสม ตรา 'Nita', 'Coco Royal' และ 'Mabu' ชานม ตรา 'Mabu' และ เครื่องดื่มวิตามิน ตรา 'C-Boom' นอกจากนี้ PLUS ได้พัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่คือเครื่องดื่มน้ำนมมะพร้าวและโยเกิร์ตมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ MABU ซึ่งเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ โดยใช้วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก (Plant-Based) โดยคาดว่าจะสามารถผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565
PLUS มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 335 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 170 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 4.5 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 765 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,015 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคา IPO ที่เสนอขายหุ้นละ 4.5 บาท เทียบได้กับมูลค่ากิจการต่อกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EV/EBITDA) ภายหลังการเสนอขาย ที่ประมาณ 20.4 เท่า
นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. โรแยล พลัส (PLUS) เปิดเผยว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และมีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเน้นวัตถุดิบธรรมชาติ และนวัตกรรม ซึ่งเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัทมีจุดแข็งที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เช่น น้ำมะพร้าว และน้ำนมมะพร้าว ที่ผลิตจากมะพร้าวที่ปลูกในประเทศไทย ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และถูกปากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องร่วมกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อการขยายฐานลูกค้าและการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
การระดมทุนและการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัทในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านฐานะการเงิน และขีดความสามารถขยายธุรกิจ โดยเงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO จะนำไปใช้เพื่อขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
PLUS มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่าง ๆ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่อง แผนการลงทุนและการขยายธุรกิจในอนาคต สภาวะตลาด ความเหมาะสม และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มของนายพลแสง แซ่เบ๊ และ กลุ่มของนายซือดวน หม่า ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท ถือหุ้นรวม 57.9%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.royalplus.co.th และ www.set.or.th