บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) หรือ EB ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของ EB พิจารณาจากปัจจัยการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งคือ ACOM CO., LTD. (ACOM; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ของประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้อันดับเครดิตของ ACOM สะท้อนถึงความคาดหมายของฟิทช์ว่าบริษัทแม่สูงสุดของกลุ่ม ซึ่งคือ Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) จะให้การสนับสนุนแก่ ACOM
ฟิทช์มองว่า EB เป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ ACOM เนื่องจาก EB เป็นบริษัทลูกในต่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ ACOM และยังมีบทบาทในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทแม่ซึ่งคิดเป็นประมาณ 19% ของรายได้รวมของกลุ่ม นอกจากนี้ EB ยังช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ของ ACOM ในการขยายธุรกิจนอกประเทศญี่ปุ่น ACOM มีสัดส่วนการถือหุ้นใน EB ที่ 71% และยังมีอำนาจควบคุมการบริหารจัดการในระดับสูงและมีการผสานการดำเนินงานร่วมกันกับบริษัทแม่ (operational integration) EB ได้ประโยชน์จากความช่วยเหลือและสนับสนุนจากบริษัทแม่ที่มีความชำนาญในด้านการดำเนินงานและการบริหารจัดการความเสี่ยงสำหรับธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค
EB มีเครือข่ายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในประเทศไทย และฟิทช์คาดว่าเครือข่ายธุรกิจของบริษัทจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีผลประกอบการที่อยู่ในเกณฑ์ดีได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงาน EB ยังคงมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแรงในปี 2564 โดยบริษัทมีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษี/สินทรัพย์รวมเฉลี่ย (pre-tax income/ average assets) ที่ 10.1% (ลดลงเล็กน้อยเทียบกับช่วงก่อนโรคระบาดโควิด-19 ที่ 12.2% ในปี 2562) อีกทั้งบริษัทยังคงมีเงินกองทุนที่ค่อนข้างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีตัวตน (debts/tangible equity) ที่ปรับตัวลดลงเป็น 0.7 เท่า ในปี 2564 (จาก 1.1 เท่า ในปี 2562) และน่าจะช่วยเป็นกันชนในการรองรับความเสี่ยงได้ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง
อันดับเครดิตของหุ้นกู้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับตัวด้อยลงของความสามารถในการที่ ACOM จะให้ความสนับสนุนแก่ EB อาจนำไปสู่การปรับลดลงของอันดับเครดิตได้ โดยตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดได้จากการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ACOM แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์จะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ EB กับบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์ด้วยเช่นกัน
การปรับตัวด้อยลงของโอกาสที่ ACOM จะให้ความสนับสนุนแก่ EB อาจนำไปสู่การปรับลดลงของอันดับเครดิตได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ ACOM ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน EB ลงต่ำกว่า 50% ควบคู่ไปกับการลดลงของอำนาจในการบริหารงานของบริษัทแม่และความเชื่อมโยงในการดำเนินงาน อาจส่งผลให้ต้องมีการทบทวนโอกาสในการให้การสนับสนุนจากบริษัทแม่ แต่อย่างไรก็ตามฟิทซ์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของโอกาสในการให้การสนับสนุนในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ ACOM น่าจะส่งผลในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตของ EB แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์จะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ EB กับบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์ด้วยเช่นกัน
อันดับเครดิตของ EB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต หากฟิทช์ทบทวนการประเมินและมองว่า EB เป็นบริษัทลูกหลัก (core subsidiary) ของ ACOM ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ฟิทช์เชื่อว่า EB ได้กลายเป็นส่วนสำคัญอย่างมากของ ACOM ควบคู่ไปกับการมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นในด้านชื่อเสียงและการมีสัดส่วนการถือหุ้นที่สูงขึ้น
อันดับเครดิตที่เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ EB มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตของ ACOM