บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ ("VGI") ผู้นำการตลาด Offline-to-Online ("O2O") Marketing โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจการจัดจำหน่าย ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564/65 มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 65.2% คิดเป็น 4,098 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการควบรวมผลการดำเนินงานของบริษัท Fanslink Communication Company Limited หรือ Fanslink เป็นระยะเวลา 8 เดือน ประกอบกับการฟื้นตัวของสื่อโฆษณานอกบ้าน และการเติบโตของกลุ่มธุรกิจบริการด้านดิจิทัล โดยธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้ 1,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% YoY ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% YoY และธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้อยู่ที่ 1,514 ล้านบาท นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา VGI ประสบความสำเร็จในการขยายไปสู่ธุรกิจการจัดจำหน่าย ผ่านการลงทุนในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่หลากหลาย บริษัทฯ จึงปรับแพลตฟอร์มธุรกิจจากธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ เป็น "ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจการจัดจำหน่าย" เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต
คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินงานที่ต้องเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจการจัดจำหน่ายผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งช่วยให้ VGI สามารถนำเสนอบริการการตลาดแบบ O2O โซลูชั่นส์ ได้อย่างครอบคลุม โดยพัฒนาการสำคัญของธุรกิจในปีที่ผ่านมาธุรกิจสื่อโฆษณา ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่แบรนด์ระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะสื่อ BTS Train Body ส่วนธุรกิจบริการชำระเงิน เดินหน้าขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท แรบบิท แคช จำกัด หรือ RCash ได้เปิดตัวทดลองแพลตฟอร์มบริการสินเชื่อดิจิทัล เพื่อนำเสนอบริการสินเชื่อแบบไร้รอยต่อ ในส่วนของบริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด หรือ RCare ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำกว่า 70 ราย โดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นนายหน้าประกันภัยอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้านบัตรแรบบิท ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 15 ล้านใบ ส่วนผู้ใช้ Rabbit LINE Pay มีจำนวนทั้งสิ้น 9.5 ล้านคน ด้านธุรกิจการจัดจำหน่าย มีความก้าวหน้าอย่างมาก จากการร่วมเป็นพันธมิตรกับ Fanslink และบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ Jaymart โดยล่าสุดได้เข้าลงทุนและมอบสิทธิการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์บน BTS Skytrain ให้แก่บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE โดยธุรกรรมนี้จะช่วยให้ VGI สามารถใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O โซลูชั่นส์ วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในพื้นที่เชิงพาณิชย์ระดับพรีเมียม เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอช่องทางการให้บริการต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดดียิ่งขึ้น
เรามั่นใจว่า ในปี 2565/66 VGI จะกลับมาเติบโตขึ้นอย่างน้อยที่ 60 - 70% และพลิกมาทำกำไรอีกครั้งแน่นอน โดยเราตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 6,500 - 7,000 ล้านบาท รับแรงหนุนของจำนวนผู้โดยสาร BTS และการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายสื่อโฆษณา และบริการด้านดิจิทัลดีขึ้น รวมถึงการควบรวมผลการดำเนินงานของ Fanslink ที่มีผลงานเติบโตอย่างโดดเด่นแบบเต็มปี ด้านงบประมาณการลงทุนบริษัทได้จัดสรรงบไว้อยู่ที่ 700 ล้านบาท เพื่อรองรับโอกาสที่จะเข้ามาต่อยอดความแข็งแกร่ง และเสริมสร้างการเติบโตให้กับ VGI ได้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท VGI ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดรวมจำนวน 0.04 บาทต่อหุ้นในปี 2564/65 โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.02 บาทต่อหุ้นในเดือนมีนาคม 2565 ในขณะเดียวกันจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายจำนวน 0.02 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2564/65 โดยการจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายนี้ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565