โรคไอกรนถึงแม้พบไม่มากในปัจจุบัน แต่มีการระบาดเป็นระยะ ส่งผลให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี
พญ.นวลนภา อนันตสิทธิ์ กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้ และภูมิคุ้มกัน ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวไว้ว่า โรคไอกรนเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อว่า Bordetella pertussis เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอหรือจามรดกันโดยตรง ส่วนใหญ่เด็กจะติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดที่ยังไม่ได้รับภูมิคุ้มกัน หรือในคนที่ไม่ได้รับภูมิคุ้มกันมาก่อน ในวัยผู้ใหญ่เมื่อติดเชื้อนี้แล้วอาจไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นได้
ลักษณะเฉพาะของโรคไอกรน คือ ไอซ้อนติดกัน 5 - 10 ครั้ง ในเด็กอาจไอจนหายใจไม่ทันหรือไอจนหยุดหายใจได้ นอกจากนี้จะมีอาการหายใจเข้าลึกๆ เป็นเสียง วู๊ป (Whooping cough) สลับกับไอเป็นชุดๆ บางครั้งอาการไออาจเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน 2 - 3 เดือน โรคนี้จะมีอันตรายและอัตราตายสูงในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี หรือเด็กที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน จึงมีความสำคัญต้องพาเด็กไปรับวัคซีนตั้งแต่อายุ 2 เดือน ซึ่งวัคซีนไอกรนจะรวมอยู่กับวัคซีนคอ ตีบ และบาดทะยัก
ป้องกันโรคไอกรนด้วยการพาเด็กไปรับวัคซีนตามอายุดังนี้
- ครั้งที่ 1 อายุ 2 เดือน
- ครั้งที่ 2 อายุ 4 เดือน
- ครั้งที่ 3 อายุ 6 เดือน
- ครั้งที่ 4 อายุ 18 เดือน
- ครั้งที่ 5 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเมื่ออายุครบ 4 ปี
ข้อมูลดีๆ จาก.. พญ.นวลนภา อนันตสิทธิ์ กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้ และภูมิคุ้มกัน ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว