ทำไมถึงไอเรื้อรัง.. ทำอย่างไรถึงจะหาย?

ข่าวทั่วไป Friday May 27, 2022 13:05 —ThaiPR.net

ทำไมถึงไอเรื้อรัง.. ทำอย่างไรถึงจะหาย?

ทำไมถึงไอเรื้อรัง.. ทำอย่างไรถึงจะหาย? ไอเรื้อรัง (Chronic Cough) คือ อาการไอที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยผู้ใหญ่มักจะมีอาการติดต่อกันเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ขึ้นไปและเด็กจะมีอาการติดต่อกันเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ขึ้นไป ไอเรื้อรังเป็นอาการที่ไม่ใช่โรค ซึ่งมีสาเหตุจากปัจจัยหรือปัญหาทางสุขภาพต่างๆ เช่น สูบบุหรี่ น้ำมูกหรือเสมหะไหลลงคอ โรคหืด และโรคกรดไหลย้อน โดยเมื่อโรคหรือภาวะที่เป็นสาเหตุได้รับการรักษาให้หายเป็นปกติ อาการไอเรื้อรังก็จะหายไปไอเรื้อรัง เกิดจากอะไร?อาการไอเรื้อรังเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • การรับประทานยารักษาความดันโลหิตสูงกลุ่ม (ACE inhibitors) เป็นระยะเวลานาน
  • โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง แล้วมีน้ำมูกไหลลงคอ
  • การใช้เสียงมาก ทำให้เกิดสายเสียงอักเสบเรื้อรัง เนื้องอกบริเวณคอ กล่องเสียง หรือหลอดลม
  • หลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • โรคหืด วัณโรคปอด โรคกรดไหลย้อน

ไอแบบไหน?..ควรไปพบแพทย์

  • ไอติดต่อกันมากกว่า 8 สัปดาห์
  • อาการไอรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
  • อาการไอที่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีเลือดปน น้ำหนักลด เบื่ออาหาร หอบเหนื่อย อ่อนเพลีย เจ็บหน้าอก
  • ไอมีเลือดปนเสมหะ
  • ไอจากการที่เคยสัมผัสกับผู้ป่วยวัณโรค หรืออยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรค

** ในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต หัวใจ เมื่อมีอาการไอควรรีบมาพบแพทย์ไอเรื้อรังรักษาอย่างไร?การรักษาอาการไอเรื้อรังที่สำคัญที่สุด คือ การหาสาเหตุของอาการไอและรักษาตามสาเหตุนั้นๆ นอกจากนี้ การปฏิบัติตัวในขณะที่มีอาการไออย่างถูกต้อง ยังเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นหรือไม่แย่ลง โดยสิ่งที่ผู้ป่วยควรปฏิบัติในขณะที่มีอาการไอ ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้ไอมากขึ้น เช่น สารก่ออาการระคายเคือง ฝุ่น สารเคมี ควันบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง เนื่องจากอากาศที่เย็นสามารถกระตุ้นหลอดลมให้เกิดการหดตัวทำให้มีอาการไอมากขึ้นได้
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ควรหลีกเลี่ยงหรืองดการสูบบุหรี่
  • ควรให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอขณะนอน เช่น นอนห่มผ้า 

หากอาการไอมีไม่มาก เบื้องต้นอาจทานยาเพื่อบรรเทาอาการไอ ถ้ามีเสมหะร่วมด้วยก็ให้ทานยาละลายเสมหะ เพื่อให้เสมหะที่เหนียวข้นขับออกจากหลอดลมได้ง่าย แต่หากทานยาดังกล่าวแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม** ท่าออกกำลังกายและการหายใจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของปอด และการไอเพื่อขับเสมหะอย่างถูกวิธี คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=75wagXQG7nI


แท็ก ไอที  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ