KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) ชี้โอกาสลงทุนในกลุ่มเฮลท์แคร์ที่ผลการดำเนินงานดี แม้ในภาวะที่เงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น ผ่านกองทุน K-GHEALTH ที่เน้นธีมการลงทุนระยะยาวจากนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวกระโดด เพื่อตอบรับเทรนด์การดูแลสุขภาพจากทั่วโลก ในงานสัมมนาหัวข้อ "Healthcare as important as ever" โดยมี ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชฯ ร่วมเสวนา เผยโควิด 19 ช่วยให้คนตระหนักความสำคัญของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ช่วยดูแลสุขภาพผู้คนให้ดีขึ้น มอง 8 นวัตกรรมที่จะเป็นเทรนด์แห่งอนาคต พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญการลงทุนจาก JP Morgan Asset Management International Equity Group ประเมินกลุ่มเฮลท์แคร์ยังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้แม้ในช่วงที่เงินเฟ้อสูง โดยเลือกกลุ่มที่จะเข้าลงทุนให้เหมาะสม
นางสาวศิริพร สุวรรณการ Senior Managing Director - Financial Advisory Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ในวันนี้เราได้ตระหนักว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งนวัตกรรมหรือความก้าวหน้าทางการแพทย์ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้เราสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ KBank Private Banking ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน จึงมองหาความเชื่อมโยงของการดูแลรักษาสุขภาพไปสู่โอกาสการลงทุน และพบว่า Healthcare Investment หรือ การลงทุนในกลุ่มเฮลท์แคร์ ผ่านกองทุน K-GHEALTH เป็นโอกาสการลงทุนที่ดีในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่ตลาดลงทุนอยู่ภายใต้ความผันผวน
กองทุน K-GHEALTH เน้นลงทุนในหุ้นทางการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
ศาสตราจารย์ นายแพทย์มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า โควิด 19 ช่วยพิสูจน์ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพ ทำให้เราสามารถต่อสู้กับโรคระบาดได้ ตั้งแต่การวินิจฉัย การพยายามในการหาวิธีในการรักษา การป้องกัน รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานในห่วงโซ่อุปทานของระบบการดูแลสุขภาพทั้งหมด นอกจากนี้ โควิด 19 ยังเป็นตัวเร่งที่ทำให้เราต้องใช้เทคโนโลยี จากนี้ไปผู้คนจะเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จะช่วยดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น พร้อมชี้ให้เห็นถึง 8 นวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะเป็นเทรนด์แห่งอนาคต คือ
ด้าน นายโทมัส แบรดลี่ย์-ฟลานนาแกน ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน จาก JP Morgan Asset Management International Equity Group เปิดเผยว่า ปี 2565 นับเป็นปีแห่งความผันผวน จากทั้งเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงความกังวลในเรื่องคอขวดห่วงโซ่อุปทานต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นในหลายภูมิภาคและ หลายๆ อุตสาหกรรม กลุ่มเฮลท์แคร์เองก็หนีไม่พ้น ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไปในอดีต ในช่วงที่เงินเฟ้อมีการปรับตัวขึ้นแรงๆ จะพบว่ากลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด ในขณะที่กลุ่มเฮลท์แคร์มีผลการดำเนินการดีตามมาเป็นอันดับ 2 เราจึงมองว่ากลุ่มเฮลท์แคร์ยังเป็นกลุ่มที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ แม้ในช่วงที่เงินเฟ้อสูง อย่างไรก็ดี เรามองว่าไม่ใช่ว่าทุกหมวดในกลุ่มเฮลท์แคร์จะมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยเราได้ปรับกลยุทธ์ลงทุน และเลือกกลุ่มที่จะเข้าลงทุนให้เหมาะสม โดยมีสัดส่วนเมื่อเทียบกับดัชนี MSCI World Healthcare ดังนี้
- Overweight ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้น ดังนี้
- กลุ่ม Biotech ที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง ทำให้มูลค่าหุ้นมีความน่าสนใจ ให้เน้นบริษัทที่มีนวัตกรรม โดดเด่น มีคุณภาพ และโอกาสเติบโตในระยะยาว
- กลุ่ม Healthcare Services เน้นลงทุนในกลุ่มประกันสุขภาพมากกว่าโรงพยาบาล
- Underweight รักษาระดับหรือลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นดังนี้
- กลุ่ม Pharma ไม่ได้มีการปรับลด โดยยังคงสัดส่วนที่มากที่สุดในพอร์ต เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มั่นคง ไม่ผันผวนไปตามสภาพเศรษฐกิจ
- กลุ่ม Medical tech มีการปรับลด หุ้นขนาดใหญ่ในบางบริษัท ที่มูลค่าหุ้นสูง
นางสาวศิริพร กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า ถ้ามองลึกลงไปในหมวดหมู่ของการดูแลรักษาสุขภาพ เรามองว่ามีอีกหลายหมวดหมู่ย่อยที่มีความแข็งแกร่งและราคายังไม่สูงมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็น บริษัทยาที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ บริษัทไบโอเทคโนโลยีที่เป็นหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการควบรวมหรือการเข้าซื้อกิจการ สุดท้ายนี้ มองว่าเฮลท์แคร์ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้ในอัตราที่ดี และยังคงมีนวัตกรรมที่จะปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ยังคงน่าสนใจและเป็นโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวต่อไปได้
สำหรับผู้ที่สนใจรับชมงานสัมมนา "Healthcare as important as ever" ย้อนหลัง โดยสามารถคลิกรับชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=GbNYrvq30Rg