กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--เครือซิเมนต์ไทย
เครือซิเมนต์ไทย (SCG) เปิด SCG Badminton Academy เฟ้นเยาวชนนักตบลูกขนไก่ เก็บตัวพัฒนาศักยภาพเต็มรูปแบบ อัดแน่นโปรแกรมความรู้และทักษะเฉพาะทาง เน้นระบบวิทยาศาสตร์การกีฬา ผลักดันสู่ความเป็นเลิศอย่างครบวงจร ทุ่มงบ 30 ล้านบาท สร้างนักกีฬาเยาวชนป้อนสู่ทีมชาติ หวังยกระดับแบดมินตันไทยก้าวไกลทัดเทียมระดับโลก
นางมัทนา เหลืองนาคทองดี ผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารองค์กร เครือซิเมนต์ไทย (SCG) แถลงข่าวเปิดตัว “SCGBadminton Academy” โครงการพัฒนาทักษะและความสามารถนักแบดมินตันเยาวชนไทยด้วยมาตรฐานสากลแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่ง SCG จัดตั้งขึ้น ณ บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา 37 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนที่มีความสามารถ ให้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพเพื่อความเป็นเลิศในระดับโลก พร้อมส่งต่อให้สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เป็นตัวแทนทีมชาติไทยในอนาคต
“การพัฒนานักกีฬาของ SCG Badminton Academy เป็นการสร้างมาตรฐานสากลครั้งแรกในประเทศไทย ที่เน้นโปรแกรมการฝึกซ้อมด้านเทคนิคและทักษะแบดมินตันแบบมืออาชีพอย่างเป็นระบบ โดยผู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญระดับโลกจากประเทศจีน ปัจจุบัน มีนักกีฬาเข้าร่วมในโครงการฯ 22 คน ซึ่ง SCG ส่งเสริมให้นักกีฬาทุกคนพัฒนาขีดความสามารถอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมและใช้ระบบวิทยาศาสตร์การกีฬา เช่น สรีระวิทยา โภชนาการกีฬา จิตวิทยาการกีฬา เป็นพื้นฐานในการพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งการวางแผนพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ตลอดจนการผลักดันให้นักกีฬาก้าวเข้าสู่การแข่งขันรายการสำคัญ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น SCG All Thailand / SCG Thailand Open / World Junior Championships เป็นต้น นอกจากนี้ ยังดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการจัดเตรียมที่พัก ดูแลเรื่องอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ จัดเตรียมการศึกษาให้สอดคล้องกับการฝึกซ้อม โดยจัดหาโรงเรียนที่สนับสนุนด้านกีฬาอย่างจริงจังให้กับเยาวชนที่อยู่ในโครงการฯ พร้อมบริการรถรับส่งทำให้มีเวลาพักผ่อนและฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ และยังวางแผนการศึกษาให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนานักกีฬาอีกด้วย โดย SCG เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประมาณปีละ 30 ล้านบาท” นางมัทนา กล่าว
ด้าน รศ. เจริญ กระบวนรัตน์ อ.ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีต่อการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาว่า ปัจจุบันวิทยาศาสตร์การกีฬาเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในกลุ่มประเทศผู้นำทางการกีฬาทั่วโลก เนื่องจากมีส่วนช่วยเพิ่มทักษะและขีดความสามารถของนักกีฬาอย่างมาก ทั้งด้านการฝึกซ้อมและการแข่งขัน โดยต้องมีการทำงานที่เป็นระบบ มีการวางแผนที่ดี มีการนำหลักการทฤษฎีต่าง ๆ มาใช้ในการฝึกซ้อม ทำให้นักกีฬาสามารถควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีเมื่ออยู่ในสนามแข่งขัน
“ตามหลักการของวิทยาศาสตร์การกีฬานั้น ความเก่งอยู่ที่การฝึกฝนไม่ได้อยู่ที่พรสวรรค์ พรสวรรค์ถือว่าเป็นต้นทุน แต่ถ้าไม่ได้รับการฝึกที่ถูกต้องและเป็นระบบ ก็อาจใช้พรสวรรค์ได้ชั่วคราว แต่ไม่ยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่จะทำให้นักกีฬาก้าวสู่ความเป็นเลิศนั้น ยังต้องอาศัยโภชนาการที่ดี และพัฒนาการทางด้านจิตใจ ผมมั่นใจว่าความสามารถของนักกีฬาไทยไม่แพ้นักกีฬาชาติไหนในโลก ถ้าได้รับการส่งเสริมสนับสนุนด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างเป็นระบบ” รศ. เจริญ กล่าวในตอนท้าย
สำหรับนักกีฬาที่จะเข้าร่วม SCG Badminton Academy คุณสมบัติขั้นต้นคือเป็นนักกีฬาชายหรือหญิงอายุ 14 — 17 ปี ซึ่งผ่านเกณฑ์การคัดเลือกด้านทักษะแบดมินตันและสมรรถภาพร่างกาย มีพรสรวรรค์โดดเด่น มีรูปร่างและสรีระที่ดี โดยดำเนินการสรรหาและคัดเลือกนักกีฬาเยาวชนที่มีศักยภาพและมีผลงานโดดเด่นจากการแข่งขันในรายการต่าง ๆ ในระดับประเทศ จากนั้นจะนำเข้ามาฝึกซ้อมในระบบวิทยาศาสตร์การกีฬา ควบคู่กับการฝึกซ้อมเทคนิคและทักษะในกีฬาแบดมินตัน
การส่งเสริมกีฬาแบดมินตัน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคม ที่เครือซิเมนต์ไทย (SCG) ให้การสนับสนุนอย่างจริงจังต่อเนื่องและครบวงจร ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ โดยเล็งเห็นว่าแบดมินตันเป็นกีฬาที่เหมาะกับสรีระของคนไทย สามารถเล่นได้ทั่วไป และมีนักกีฬาที่มีความ สามารถที่จะพัฒนาไปสู่แชมป์ระดับโลกซึ่งจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ นอกจากนี้ การส่งเสริมการกีฬา ยังเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งทางร่างกายและจิตใจให้เยาวชนของชาติเป็นทั้งคนเก่งและดี เพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต