กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--เอ็กซ์ตร้า ยูนิท
ซันพาราไดซ์ ผู้นำผลิตประตูหน้าต่างอลูมิเนียมคุณภาพสูง ส่งนวัตกรรมยุโรปเข้าประเทศไทย มุ่งตลาดที่พักอาศัยระดับหรู เผยออร์เดอร์กลุ่มลูกค้าต่างชาติมาแรงแถบชายทะเล ภูเก็ต สมุย พร้อมขยายกำลังการผลิตที่บางปะกงรองรับตลาดโลก
นางสุพาพัตร อีแกน รองกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซันพาราไดซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ซันพาราไดซ์ (SUNPARADISE) เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตระบบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม (Aluminum Glazing Systems) คุณภาพสูงในภูมิภาค โดยตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยมา 5 ปี และมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยปัจจุบันนี้ บริษัทฯ ผลิตและประกอบบานหน้าต่าง ประตู และผนังกระจกตามความประสงค์ ของลูกค้า เพื่อให้เหมาะสมและโดดเด่นอย่างมีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นประตูบานเฟี้ยมและหน้าต่าง สินค้าของบริษัทฯ จะมีคุณภาพสูงกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาด เพราะได้นำเทคโนโลยีจากสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรอุปกรณ์อันทันสมัย ประกอบด้วยระบบเคลือบ (Powder Coated) การพ่นสี (Basic Colour) และ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดด้วยการทำอลูมิเนียมลายไม้ (Wood Effect) ซึ่งทำให้บานประตูหน้าต่างอลูมิเนียมในชื่อ “ซันพาราไดซ์” มีคุณภาพคงทน รองรับการดีไซน์ได้อย่างอิสระตามต้องการ และยังสร้างความมั่นใจและปลอดภัยแก่บุคคลในครอบครัวด้วยระบบล็อกสองชั้น (Multi-Lock) ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งระบบการติดตั้ง (Seal) ของซันพาราไดซ์ สามารถป้องกันเสียง และสภาวะอากาศได้ไม่เป็นที่สองรองใคร บ้านจึงเงียบและปราศจากปัญหาน้ำรั่วซึมระหว่างรอยเชื่อมต่อของบานประตูหน้าต่าง แม้ว่าจะผจญกับแรงลมหรือฝนหนักเพียงใด
นางสุพาพัตร ยังกล่าวว่า สินค้าภายใต้ชื่อ “SUNPARADISE” เป็นที่รู้จักในเรื่องความสวยงาม แข็งแรง และทนทานต่อสภาวะ ดังนั้นจึงเป็นที่รู้จักและเชื่อถือในกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการดีไซน์ควบคู่ไปกับความคงทนของวัสดุ รวมทั้งการติดตั้งที่ให้คุณภาพเหนือกว่าการติดตั้งทั่วไป ล่าสุดซันพาราไดซ์ ได้ผลิตประตูหน้าต่างอลูมิเนียมให้กับโครงการบ้านพักอาศัยชื่อดังหลายโครงการ โดยเฉพาะแหล่งที่พักอาศัยชายทะเลระดับบนอย่าง ภูเก็ต สมุย เช่น รอยัล ภูเก็ต มารีน่า ท่าเรือระดับหรูที่ต้องเจอสภาวะอากาศเต็มไปด้วยไอเค็มจากทะเล แสงแดดที่รุนแรง พายุฝน และคลื่นลมที่พัดตลอดเวลา ล้วนส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของที่พักอาศัย ก่อความเสียหายแก่ตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกรอบหน้าต่างแบบเดิมที่อายุเสื่อมลงรวดเร็วการใช้งานสั้นลง ทั้งยังเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมในบ้าน เสียงภายนอกลอดเข้ามาในตัวบ้าน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและยังต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมจิปาถะ
เปิดนวัตกรรมสวิตเซอร์แลนด์
ครบครันทั้งประตู หน้าต่าง กระจก ระบบการทำสี และขั้นตอนการประกอบ
จุดเด่นของเทคโนโลยีซันพาราไดซ์ เน้นสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการออกแบบเพื่อเพิ่มเสน่ห์แบบมีวิสัยทัศน์ และแต่งเติมชีวิตชีวาให้แก่ที่พักอาศัย ครบครันด้วย ระบบประตูหน้าต่าง
บานเฟี้ยม ประตูและหน้าต่างแบบเลื่อน ระบบประตูแฟนตาซี มุ้งกันแมลง และระบบการทำสีฝุ่นที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะแตกต่างจากทั่วไป
“การจัดวางการเปิด-ปิดประตูบานเฟี้ยมของซันพาราไดซ์ สามารถออกแบบให้ตรงตามความประสงค์แและเหมาะกับการใช้สอย โดยความสูงของบานสามารถออกแบบได้สูงถึง 4 เมตร และหน้ากว้าง 1 เมตร ต่อ 1 บาน สามารถครอบคลุมเนื้อที่ไม่จำกัด ไม่ว่าพื้นที่ที่โค้งหรือพื้นที่ที่มีมุมของผนัง ซึ่งลูกค้าที่เน้นวิวทิวทัศน์จะชื่นชอบมาก ส่วนระบบประตูและหน้าต่างแบบเลื่อนของซันพาราไดซ์ เน้นความลื่นไหล (Smooth) ของระบบบานเลื่อน ซึ่งมีการออกแบบเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นการจัดวางของอุปกรณ์และส่วนประกอบต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและลงตัว เพื่อรองรับการใช้งานไม่ให้เกิดการเสียดสีและเสียงรบกวนตลอดอายุการใช้งาน”
นางสุพาพัตร เสริมว่าด้วยจุดเด่นของเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้โครงสร้างบ้านมีความคงทนถาวร สวยงามตัดปัญหาการซ่อมแซมบำรุง ลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานอีกทาง โดยเฉพาะระบบการติดตั้งของซันพาราไดซ์ นอกจากจะกันเสียงภายนอกเล็ดลอดเข้ามาแล้ว ยังกันไอร้อนที่จะแทรกเข้าตัวบ้านได้ด้วย ภายตัวบ้านจึงไม่อบอ้าว ไม่ต้องเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำมาก แถมยังสามารถมองวิวภายนอกได้อย่างสบายตา
ฐานผลิตบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา ขยายกำลังการผลิตรับออร์เดอร์ต่างประเทศ
ในขณะที่สินค้าในชื่อ ซันพาราไดซ์ ในเมืองไทยมีการทำการตลาดไม่นานนัก แต่สำหรับตลาดต่างประเทศแล้ว ระบบบานประตู-หน้าต่างของซันพาราไดซ์ เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคมากว่า 18 ปีแล้ว ด้วยคุณภาพของระบบเทคโนโลยี และวัสดุที่มีคุณภาพของซันพาราไดซ์ทำให้ผู้บริโภคเมืองไทยรู้จักแบรนด์ซันพาราไดซ์เพิ่มมากขึ้นจากเจ้าของอาคารและที่พักอาศัยที่แนะนำกันปากต่อปาก ล่าสุดโครงการใหม่ที่เลือกใช้สินค้า ซันพาราไดซ์ ได้แก่ โรงแรมแชงกรีล่า ภูเก็ต และ “จูมิลาช” คอนโดมิเนียมหรูระดับ 5 ดาว ของกลุ่มทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรจ
ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานการผลิตที่อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ผ่านมาบริษัทฯ เน้นทำตลาดอยู่เฉพาะภูเก็ต, สมุย เขตกรุงเทพฯและบางพื้นที่ ส่วนด้านกำลังการผลิตนั้นสามารถผลิตได้ 150 ชิ้นต่อวัน และสามารถเพิ่มได้ถึง 250-300 ชิ้นต่อวันเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ โดยสินค้ามีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนต่อชิ้น ขึ้นกับรายละเอียดของสินค้า
นางสุพาพัตร กล่าวว่ายังเน้นสัดส่วนการตลาดภายในประเทศมากกว่าส่งออก โดยบริษัทฯ มียอดขายภายในประเทศมูลค่า 250 ล้านบาทเมื่อปี 2550 ส่วนในปี 2551 บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย 15-20% แม้ภาวะเศรษฐกิจจะซบเซาแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตเนื่องจากเป็นตลาดบน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ฐานกำลังซื้อแข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ทางบริษัทได้มีการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในตลาดต่างประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย อเมริกา ออสเตรเลีย และแอฟริกา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณกชวรรณ ธานีวัฒน์ ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท เอ็กซ์ตร้า ยูนิท จำกัด โทร. 0-2-939-5217-8, 084 6688-352
อีเมล์: kochawan@extraunit.com