นิวตั้น เบอร์หนึ่งเครื่องทำน้ำแข็งไทย บุกตลาดอุปกรณ์ครัวเชิงพาณิชย์ สร้างยอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท หวังโตเพิ่ม 50% จากหลายปัจจัยบวก ทั้งเทรนด์ธุรกิจขนม อาหาร ฟู้ดเดลิเวอรี่โตต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมออกงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 เดินหน้าเจาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ที่เตรียมฟื้นธุรกิจรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นหลังเปิดประเทศ
นางสาวจิราธิวัฒน์ เชื้อสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวตั้น ฟู้ด อิควิปเม้นท์ จำกัด กล่าวถึง การขยายธุรกิจสู่กลุ่มอุปกรณ์ครัวเชิงพาณิชย์ กว่า 30 ปี ในการดำเนินธุรกิจ นิวตั้นประสบความสำเร็จอย่างมากจนเป็นผู้นำตลาดเครื่องผลิตน้ำแข็งเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของไทย โดยระหว่างการพัฒนาตลาดเครื่องผลิตน้ำแข็ง ทางบริษัทฯ ได้มีการขยายธุรกิจสู่ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ครัวเชิงพาณิชย์และระบบงานครัว (Food Equipments Solution) ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศควบคู่ไปด้วย ทำให้เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจมากนัก แม้ลูกค้ากลุ่มเดิมจะชะลอการซื้อไปบ้าง แต่ลูกค้าใหม่ในกลุ่มอุปกรณ์ครัวเชิงพาณิชย์กลับเพิ่มขึ้นทำให้ยอดจำหน่ายในปี 2564 ที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50% จนปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ มาจากกลุ่มเครื่องครัวเชิงพาณิชย์ 50% และกลุ่มเครื่องทำน้ำแข็ง 50% มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของบริษัทฯ อยู่ที่ปีละประมาณ 15-20% รายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตลาดกลุ่มเครื่องครัวเชิงพาณิชย์โตขึ้นอย่างมากนั้น เกิดจากเป้าหมายและการลงทุนในธุรกิจของผู้ประกอบการรุ่นใหม่เปลี่ยนไป ที่มีความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนต้องออกจากงานประจำจึงต้องสร้างธุรกิจของตนเอง ทำให้ธุรกิจขนม อาหาร เครื่องดื่ม และฟู้ดเดลิเวอรี่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการผลิตสินค้าของผู้ประกอบการรุ่นใหม่เหล่านี้จะให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย เป็นระบบต่อเนื่องครบวงจร ทำให้มีความสะดวก ลดขั้นตอนการผลิต ประหยัดเวลา ควบคุมคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานได้สม่ำเสมอ และที่สำคัญคือใช้แรงงานคนน้อย ลดการสัมผัสในการผลิตทำให้สินค้ามีความปลอดภัยและแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดแรงงานอีกด้วย
โดย นิวตั้น ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำแข็งและเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ครัวเชิงพาณิชย์กว่า 20 แบรนด์ (Exclusive Distributor) ล้วนแต่เป็นแบรนด์คุณภาพชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ Newton, Newton Elite, Ice-O-Matic, Scotsman , Convotherm, Merrychef, Turbofan, Tecnomac, Zumex, Wachtel, SPM etc. โดยมีทั้งเครื่องทำน้ำแข็ง เตาอบ เตาทอด ตู้แช่เย็น/แช่แข็ง ตู้หมักแป้ง และอุปกรณ์ครัวอื่นๆอีกมากมาย ส่วนกลุ่มอุปกรณ์ครัวเชิงพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมในขณะนี้จะเป็นกลุ่มเบเกอรี่ อาหาร และเครื่องดื่ม โดยการคัดเลือกแบรนด์สินค้าที่นำมาจำหน่ายจะเน้นเรื่องคุณภาพเป็นอันดับแรก ต้องมี
การทดสอบใช้งานจริง มีการเดินทางไปเยี่ยมชมถึงโรงงานผลิตก่อนตัดสินใจนำเข้ามาจัดจำหน่าย ส่วนอีกจุดแข็งที่สำคัญ คือ การบริการ โดยนิวตั้นมีศูนย์บริการอยู่ทั่วประเทศกว่า 30 แห่ง มีช่างคอยให้บริการกว่า 100 คน ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง และมีอะไหล่สำรองไว้ให้บริการทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลยุทธ์การตลาดในปีนี้ ยังคงเน้นในการเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ รวมถึงกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหารที่มีสัญญาณฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ พร้อมสร้างแบรนด์สินค้าที่นิวตั้นเป็นผู้จัดจำหน่ายให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยการให้ลูกค้าได้มาใช้งานจริงจาก Demo Kitchen และการร่วมออกแสดงสินค้าสำคัญอย่างงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 ซึ่ง นิวตั้น ได้ร่วมออกงานและประสบความสำเร็จในทุกครั้งของการจัดงาน เนื่องจากกลุ่มผู้เข้าเยี่ยมชมงานส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการตัวจริงในอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ที่ต้องการหาอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเพื่อมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
ด้าน นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบริหารโครงการอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอุปกรณ์ครัวเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม ว่า ธุรกิจขนมและอาหารยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจในรูปแบบเดิมและธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ทำให้มูลค่าตลาดรวมโดยเฉพาะในกลุ่มเบเกอรี่สูงถึง 32,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป
นับเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ โดยปัจจัยสำคัญของความสำเร็จจำเป็นต้องมีความรู้ มีการวางแผนที่ดี มีอุปกรณ์เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีช่วยในการผลิตสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอ มีความปลอดภัย ประหยัดเวลา และคุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 เป็นงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งผู้ร่วมจัดแสดงงานที่จะได้พบกับผู้ประกอบการตัวจริง และผู้เข้าร่วมชมงานที่จะได้พบกับ ทั้งวัตถุดิบ อุปกรณ์ บริการ ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการผลิตและการดำเนินธุรกิจ รวมถึงกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆ แก่ผู้เข้าร่วมชมงานฯ อีกด้วย
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและรายละเอียดการจัดงาน ฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.fhtevent.com ติดต่อ คุณสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร อีเมล supaporn.a@informa.com หรือ โทร.02-036-0500