กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น
TRC สร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้นักลงทุน 2 เรื่อง ประกาศปันผลปี 2550 เป็นทั้งเงินสดหุ้นละ 0.03174 บาท และหุ้นปันผลในอัตราส่วน 7 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ ้นปันผล พร้อมกันนี้ยังคว้างานจาก 'บางจาก ไบโอฟูเอล' ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบางจากฯ เซ็นสัญญาก่อสร้างศูนย์ผลิต ไบโอดีเซล มูลค่า 757 ล้านบาท ทางด้าน'สมัย ลี้สกุล' ตอกย้ำความมั่นใจปีนี้แนวโน้มผลประกอบการขยายตัวอย่างโดดเด่น
นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลประจำปี 2550 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.03174 บาท/หุ้นบาท รวมเป็นเงิน 8,148,147 บาท และจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตราส่วน 7 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.28571 บาทโดยคำนวณมูลค่าจากราคาพาร์หุ้นละ 1.00 บาท รวมเป็นหุ้นปันผลจำนวนทั้งสิ้น 73,333,319 หุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมการจ่ายทั้งหุ้นและเงินปันผลทั้งสิ้น 81,481,466 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 88%
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย ตามโครงการ ESOP จำนวน 7,700,000 หน่วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงจูงใจและตอบแทนการปฏิบัติงานของกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย และเพื่อให้บุคคลดังกล่าวมีความตั้งใจในการทำงาน เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่บริษัทฯ อันจะส่งผลทางอ้อมต่อประโยชน์โดยรวมของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กรรมการและพนักงาน ให้ทำงานกับบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยต่อไปในระยะยาวอันจะส่งผล ดีต่อการปฏิบัติงานและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต โดย ESOP ตามโครงการนี้จะเริ่มใช้สิทธิได้ในปี 2552 - 2553 อัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญ ราคาใช้สิทธิจะมีส่วนลดร้อยละ 10 จากราคาตลาดของหุ้น (ราคาปิด)เฉลี่ย 7 วัน นับแต่วัน ก่อนประชุม สามัญผู้ถือหุ้นประจํา ปี 2551 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันศุกร์ ที่ 25 เมษายน 2551 (หรือร้อยละ 90 ของราคาตลาดเฉลี่ยดังกล่าว)
'การจ่ายปันผลเป็นหุ้นในครั้งนี้ เป็นเพราะคณะกรรมการเห็นประโยชน์ถึง 2 ทาง โดยประการแรกบริษัทฯ สามารถนำเงินสดที่มีอยู่ไปใช้ขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากในปีนี้เป็นปีที่ TRC มีนโยบายจะเข้าร่วมประมูลงานในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ รวมทั้งได้รับงานประมูลไว้ในมือเป็นจำนวนมากทำให้ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนค่อนข้างสูง การจ่ายปันผลเป็นหุ้นจึงไม่ทำให้กระแสเงินสดลดลง ในขณะเดียวกันจะทำให้จำนวน หุ้นที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นที่หมุนเวียนในกระดานให้สามารถซื้อง่ายขายคล่องขึ้น และแม้ว่าจะมีปริมาณหุ้นเพิ่มขึ้น แต่ทีมบริหารเชื่อว่าผลประกอบการที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบกับอัตรากำไรต่อหุ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงตัดสินใจเลือกการจ่ายปันผลเป็นหุ้นดังกล่าว'
นายสมัยกล่าวต่อถึงผลประกอบการในปี 2551 ที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากในปี 2550 ที่ผ่านมาทั้ง บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น และบริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย สามารถประมูลงานใหม่ได้เพิ่มขึ้นโดย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 มีโครงการในมือรวม 16 โครงก าร รวมรายได้ที่ยังไม่ได้รับรู้จำนวน 2,139 ล้านบาท (ตัดโครงการท่อน้ำประแสร์ที่เป็นโครงการ ร่วมระหว่างกันออก) โดยงานที่ประมูลได้เป็นของ บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำนวน 11 โครงการ มีรายได้ที่ยังไม่ได้รับรู้มูลค่า 1,569 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างก่อสร้างศูนย์ ผลิตไบโอ ดีเซล ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังการผลิต 300,000 ลิตร/วัน มูลค่า 757 ล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 15 เดือน ของบริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทย่อยของ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ที่ได้มีการลงนามใน Letter of Intent ไปแล้วก่อนหน้านี้
ส่วน บริษัท สหการวิศวกร จำกัด มีโครงการในมือ รวม 6 โครงการ มีมูลค่างานที่ยังไม่รับรู้รายได้ 609 ล้านบาท ซึ่งรวมโครงการใหม่ที่ได้รับปี 2551 จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการงานโครงสร้างสถาปัตยกรรมโครงการมาลิบู เขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าโครงการ 398 ล้านบาท และโครงการ Civil Infrastructure for process plant, ไทยโพลีเอททิลีน มูลค่างาน 41 ล้านบาท ที่สำคัญแนวโน้มธุรกิจหลักของ สหการวิศวกรอยู่ในธุรกิจ Pipeline และ Process Plantของอุตสาหกรรมพลังงาน และปิโตรเคมี มีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้นตามความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวอย ่างต่อเนื่อง เพื่อทดแทนการใช้น้ำมันที่ราคาปรับสูงขึ้น จึงทำให้ธุรกิจหลักของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตได้เป็นอย่างดีดังกล่าว
เขากล่าวต่อว่าในปี 2551 บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการกับ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด คือ หน่วยงาน Project Development and Investment ซึ่งโครงการที่อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้นั้น ขณะนี้มีความเป็นรูปธรรมเด่นชัดขึ้น ทั้งการพัฒนาโครงการด้านพลังงาน เช่น โครงการเขื่อนพลังงานไฟฟ้าสตึงนำ ที่ประเทศกัมพูชา โครงการด้านไฟฟ้า เช่น โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ลาดกระบัง และโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการรอยัลราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดรายได้ที่ต่อเนื่องและยั่งยืน ในระยะยาว แ ละที่สำคัญโครงการดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 30- 40 ของรายได้จากธุรกิจปกติที่มีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณร้อยละ 15
นอกจากนี้ TRC ยังมีนโยบายที่จะขยายงานออกสู่ต่างประเทศ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยเป็นงานในด้าน Pipeline,Fabrication และ Water Desalination ภายใต้ความร่วมมือกับ China National Petroleum Corporation หรือ CNPC ซึ่งเป็นผู้นำด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และงานTurnkey Desalination ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท ไฮโดรเท็ค จำกัด ซึ่งจะทำให้การสร้างรายได้กว้างขวางขึ้น ในขณะนี้ TRC ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นสามารถประมูลงานทางด้าน Oil and Gas ในประเทศโอมานในวงเงิน 20 — 100 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
“จากงานในมือที่มีเพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง บวกกับความชัดเจนทางการเมือง และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คาดว่าจะทำให้มีงานจากภาครัฐเปิดประมูลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ TRC โดยปีนี้คาดว่าจะสามารถชนะงานประมูลของภาครัฐเพิ่มเติมจากที่ประมาณการไว้ในเบื้องต้น 350 ล้านบาท และโดยภาพรวมในปี 2551 คาดว่า TRC จะมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 28%”นายสมัยกล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณอุ่นเรือน สุจริตธรรม เลขานุการบริษัท
บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ 02-936-1660 ต่อ 178