ฟิลิปส์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะใหม่ ตั้งเป้าขึ้นแชมป์ผู้นำตลาดระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทย ปี 2552

ข่าวเทคโนโลยี Friday March 21, 2008 11:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์
บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ เปิดตัวเครื่องกรองน้ำอัจฉริยะใหม่ ชูเทคโนโลยีพาวเวอร์ ยูวี พลัส (Power UV+) ประสิทธิภาพเหนือกว่า ด้วยความสามารถในการกรองน้ำดื่มได้บริสุทธิ์สูงที่สุด รับรองด้วยมาตรฐาน WQA จากสหรัฐอเมริกา ระดับ Class A ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยขณะนี้ มั่นใจสามารถคว้าตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ตลาดเครื่องกรองน้ำระดับพรีเมี่ยมภายในปี 2552
คุณสมชัย กล่าวว่า “ฟิลิปส์เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพราะเล็งเห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และสรรหาผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามามีส่วนช่วยในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “น้ำ” ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง เพราะองค์ประกอบในร่างกายของคนประมาณ 2 ใน 3 คือน้ำ ดังนั้นร่างกายจึงต้องการน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์เพื่อให้กระบวนการทำงานในส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นไปตามปกติ”
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะในครั้งนี้เป็นโปรแกรมระดับภูมิภาค โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 2 รองจากอินเดียที่ได้ทำการเปิดตัวไปแล้วเมื่อกลางปี 2550 หลังจากนี้ จะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำในประเทศอื่นๆ อาทิ เกาหลี มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเวียดนามภายในเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำนี้เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของฟิลิปส์ทั่วโลก ที่มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลสุขภาพและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น (Health and Well-being)
เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะฟิลิปส์นี้ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพน้ำจาก WQA (Water Quality Association) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถาบันระดับโลกที่เป็นตัวแทนในการคัดสรรผู้ผลิตน้ำคุณภาพที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดย่อมและในครัวเรือน โดยเครื่องกรองน้ำฟิลิปส์ได้รับรางวัล Gold Seal ระดับ Class A ที่สามารถปล่อยแสงอัลตร้าไวโอเลตเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้อย่างน้อย 40 มิลลิจูดต่อตารางเซ็นติเมตร เพียงแบรนด์เดียวในประเทศไทย ซึ่งหมายความว่า เครื่องกรองน้ำฟิลิปส์สามารถกรองน้ำได้บริสุทธ์สูงสุดในประเทศไทยเมื่อเทียบกับเครื่องกรองน้ำแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้ยังผ่านการรับรองจากสถาบัน Kiwa Water Research ประเทศเนเธอร์แลนด์ และสถาบัน Bureau of Indian Standards ประเทศอินเดียอีกด้วย
นายสมชัยกล่าวว่า “ความพิเศษของเครื่องกรองน้ำฟิลิปส์ไม่ได้มีประสิทธิภาพตรงตามมาตรฐานการรับรองเท่านั้น แต่ยังเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีพาวเวอร์ ยูวี พลัส (Power UV+) ที่สามารถปล่อยแสงอัลตร้าไวโอเลตได้สูงถึง 54 มิลลิจูดต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในตลาด มีประสิทธิภาพสามารถฆ่าเชื้อโรคได้สูงสุด อาทิ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต และเชื้ออมีบา และไส้กรองคาร์บอนและไส้กรองตะกอนที่จะสามารถกำจัดความขุ่น คลอรีน สารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ จุลินทรีย์ และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก โดยไม่ทำลายแร่ธาตุที่อยู่ภายในน้ำ รวมทั้งสามารถปรับรสชาติของน้ำให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ได้น้ำบริสุทธิ์ถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์”
นอกจากนี้เครื่องกรองน้ำฟิลิปส์ยังแตกต่างด้วย ระบบ IntelliFill ที่สามารถกำหนดปริมาณการจ่ายน้ำ ทำให้มีน้ำบริสุทธิ์ดื่มอยู่เสมอ แม้คุณจะนอนหลับหรือไม่อยู่บ้านก็ตาม ระบบ PureProtect Alert จะส่งสัญญาณเตือนการเปลี่ยนไส้กรองล่วงหน้าเมื่อใช้เครื่องไปแล้ว 2,700 ลิตร แต่ยังสามารถใช้น้ำต่อไปได้อีก 300 ลิตร หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือน หากไม่เปลี่ยนไส้กรองหลังการใช้กรองจนครบ 3,000 ลิตรไปแล้ว ระบบ PureProtect Lock จะทำการล็อคการทำงานของเครื่องโดยอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้รับน้ำที่ยังไม่ได้ผ่านการกรองโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังมี ระบบ PureFlush ที่จะทำการชำระล้างท่อภายในและช่องใส่หลอด UV โดยอัตโนมัติด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว จึงมั่นใจได้ว่าน้ำที่ผ่านการกรองสะอาดบริสุทธิ์ ฟิลิปส์ยังออกแบบเครื่องกรองน้ำให้ง่ายต่อการใช้งาน ด้วยระบบ Tilt & Twist ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไส้กรองได้ด้วยตัวเอง และยังประหยัดไฟด้วยระบบ PowerSave ที่กินไฟเพียง 25 วัตต์เท่านั้น พร้อมทั้งยังรับประกันสินค้า 2 ปีเต็ม
“กลุ่มเป้าหมายของเครื่องกรองน้ำฟิลิปส์ ได้แก่ กลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปและกลุ่มครอบครัวที่คำนึงถึงความสำคัญของการมีสุขภาพดี ซึ่งมองหาเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับตนเองและครอบครัวมากยิ่งขึ้น โดยในครั้งนี้ฟิลิปส์เปิดตัวเครื่องกรองน้ำอัจฉริยะพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่รุ่น WP3892 ราคา 29,900 บาท และรุ่น WP3890 ราคา 24,900 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ” คุณสมชัยกล่าว
สำหรับแผนการส่งเสริมการขายและตลาด ฟิลิปส์ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ 100 ล้านบาท เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะฟิลิปส์แบบครบวงจร โดยจะสื่อสารถึงประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำผ่านโฆษณาในรูปแบบของ Advertorial ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ โดยมีคุณจุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา คุณนิว-วงศกร ปรมัตถากร และครอบครัวคุณตุ๊ก-ชนกวนันท์ และคุณบ๊วย-เชรษฐวุฒิ วัชรคุณ ดาราและนักแสดงที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่และครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ช่วยสร้างความรู้และความเข้าใจในเรื่องของความสำคัญของการบริโภคน้ำบริสุทธิ์ และยังมีแผนที่จะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ต่อไปเพื่อตอกย้ำถึงประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำฟิลิปส์
ฟิลิปส์จะดำเนินกลยุทธ์ Consumer Experience Marketing เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับคุณสมบัติและทดสอบประสิทธิภาพของเครื่อง ณ จุดขาย และจัดกิจกรรม Health Caravan Roadshow ทั่วประเทศ พร้อมไปกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆของฟิลิปส์ อาทิ เครื่องปั่นอเนกประสงค์ เครื่องสกัดน้ำผลไม้ และเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งกิจกรรมจะจัดในรูปแบบของ infotainment โดยมีคุณจุ๋ย-วรัทยา ร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์เพื่อการมีสุขภาพดี ทำให้ฟิลิปส์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง
นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังให้ความสำคัญกับการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยการแต่งตั้งศูนย์เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะ ฟิลิปส์ พร้อมเบอร์ Hotline 02-720-7066 เพื่อให้บริการด้านข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ คำแนะนำในการใช้งาน และบริการติดตั้งเครื่องกรองน้ำฟรีภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากสั่งซื้อซึ่งสามารถให้บริการได้ทั่วประเทศ
ฟิลิปส์ได้เปรียบเทียบให้เห็นถึงความคุ้มค่าในการใช้เครื่องกรองน้ำฟิลิปส์กับการซื้อน้ำขวดบรรจุบริโภค โดย ราคาน้ำบรรจุขวดราคา 14 บาท ต่อ 1 ลิตร แต่เมื่อใช้เครื่องกรองน้ำฟิลิปส์ ราคาน้ำต่อลิตรจะมีราคาเพียง 2.28 บาท สามารถประหยัดค่าซื้อน้ำไปได้ถึง 11.72 บาท ต่อลิตร และหากคิดคำนวณการใช้น้ำของสมาชิก 4 คน ต่อครอบครัว ใน 1 วัน หากใช้น้ำปริมาณ 8 ลิตรต่อวัน ภายใน 1 เดือน เครื่องกรองน้ำฟิลิปส์จะสามารถช่วยประหยัดค่าซื้อน้ำไปได้ถึง 2,812.85 บาท และภายใน 7 ปี จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำไปได้ถึง 236,279.20 บาท
นายสมชัยกล่าวว่า “ตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น และฟิลิปส์มั่นใจว่าด้วยประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำฟิลิปส์และแผนการตลาดจะทำให้ฟิลิปส์ประสบความสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมายเป็นผู้นำในตลาดเครื่องกรองน้ำระดับพรีเมี่ยมในปี 2552”
ปัจจุบันตลาดเครื่องกรองน้ำในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนการขายแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำระดับพรีเมี่ยม 40 เปอร์เซ็นต์ และ 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำระดับกลางและระดับพื้นฐาน และคาดว่าภายในปี 2552 สัดส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำระดับพรีเมี่ยมจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ หลังจากฟิลิปส์เข้ามาดำเนินการตลาดเครื่องกรองน้ำแล้ว
ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร 02-614-3333 ต่อ 3486, 3627

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ