ผู้ถือหุ้น ECL ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง บริการรับต่อกรมธรรม์ประกันภัยและ พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยทางรถยนต์ ไฟเขียวออก ECL-W4 จำนวน 369.61 ล้านหน่วย แจกฟรีอัตรา 3 ต่อ 1 และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,108.85 9 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,478.47 ล้านบาท รองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ ด้านผู้บริหาร "ดนุชา วีระพงษ์" เผยวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายกิจการในอนาคตและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง บริการรับต่อกรมธรรม์ประกันภัยและ พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยทางรถยนต์ เปิดเผยว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีมติอนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 4 (ECL-W4) จำนวนไม่เกิน 369,619,667 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (ในกรณีที่มีเศษให้ปัดเศษทิ้ง) ที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565
นอกจากนี้ยังอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากทุนจดทะเบียน 1,108,859,002 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,478,478,669 บาท แบ่งออกเป็น 1,478,478,669 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 369,619,667 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (ECL-W4)
"วัตถุประสงค์ของการออก ECL-W4 เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเพื่อใช้ในการขยายกิจการในอนาคตและลดต้นทุนทางการเงินหรือลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทให้ลดลงและบริษัทกำหนดการใช้สิทธิในวันทำการของเดือนที่ครบทุก 1 ปี ตลอดอายุ 2 ปี หลังจากที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ส่วนราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิจะอยู่ที่ 2 บาทต่อหุ้น หรืออาจจะเปลี่ยนแปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ" นายดนุชา กล่าว
นายดนุชา กล่าวต่อไปว่าในปี 2564 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มีความท้าทายอย่างยิ่ง ทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและโรคระบาด ที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยศักยภาพ ความมุ่งมั่นและความตั้งใจ บริษัทจึงปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมั่นบริษัทจะก้าวย่างไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
อนึ่งในปีนี้บริษัทยังคงคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% จากปีก่อนทำได้ 6,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายที่จะบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ไม่เกิน 4.5% นอกจากนี้ในไตรมาส 3/2565 ยังเตรียมขยายพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกันและเปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ ร่วมออกผลิตภัณฑ์กับบริษัทเพื่อขยายฐานลูกค้าอีกด้วย