บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ "Pi" "พาย" ประเมิน ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 1.05% ภาพรวมไม่ได้มีปัจจัยใหม่ๆ ที่มีนัยยะเป็นเพียงแรงซื้อเข้ามาหลังตลาดหุ้น Dow Jones ปรับฐานลงมาก่อนหน้า ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ในเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 53 ต่ำสุดในรอบ 2 ปีและยังต่ำกว่านักวิเคราะห์ประเมินที่ 54.6 ขณะเดียวกันมีการรายงานดัชนีใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้างพบว่าติดลบ 0.1%MoM สวนทางกับตลาดประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%MoM ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 2.4% ตลาดยังคงวิตกกับปัญหาอุปทานขาดแคลน เนื่องจากปัญหาประท้วงในลิเบียกดดันการผลิต ทั้งนี้ หากพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาเริ่มพบว่าเห็นสัญญาณการลดลงชัดเจน ข้อดีคือคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อ แต่ข้อเสียคือมีความเสี่ยงที่นักวิเคราะห์จะปรับลดประมาณการกำไรลง ซึ่งปัจจุบันในตลาดหุ้น Dow Jones ยังมิเห็นการปรับลดประมาณการกำไรแต่อย่างใด รวมถึง SET INDEX ถือเป็นความเสี่ยงที่รออยู่ในช่วงถัดไป
สัปดาห์นี้ปัจจัยหลักได้แก่ (1) ในประเทศไทยจะมีการรายงานเงินเฟ้อประจำเดือน มิ.ย. Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 7.5%YoY สูงกว่าเดือนก่อนที่ 7.1%YoY และขยาย ตัว MoM ราว 0.78% ขณะที่เราตั้งข้อสังเกตว่าการขยายตัวของเงินเฟ้อมีความเป็นไปได้ที่จะต่ำกว่า Consensus ประเมินไว้ เนื่องจากหากพิจารณาราคาน้ำมันดีเซลในประเทศประจำเดือน มิ.ย. พบว่าขยายตัวราว 9.6%MoM แต่ Consensus คาดว่าเงินเฟ้อจะขยายตัวเพียง 0.78%MoM แต่หากเปรียบเทียบกับเดือน พ.ค. ราคาน้ำมันดีเซลขยายตัวเพียง 6.7%MoM แต่เงินเฟ้อในเดือน พ.ค. ขยายตัวสูงถึง 1.4%MoM ดังนั้น หากเงินเฟ้อสูงกว่าตลาดประเมินไว้อาจเป็นปัจจัยกดดันการลงทุน ถัดมาของต่างประเทศ (2) รายงานผลประชุม FOMC สำหรับเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาในวันพฤหัสบดี แต่เชื่อว่ามีผลต่อการลงทุนไม่มากเพราะมองว่าคาดการณ์ดอกเบี้ยของตลาดที่ 0.75% ในสิ้นเดือนนี้จะเพียงพอ (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ Bloomberg Consensus คาดที่ 2.75 แสนตำแหน่งพร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 3.6% ประเมินกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1565 - 1590 เชิงกลยุทธ์การลงทุนสำหรับ Trading แนะ ค้าปลีก (BJC CPALL) ส่งออก (ASIAN) น้ำมัน (PTTEP) หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะ (CBG SCGP)
ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท) คาดกำลังการผลิตใหม่ในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะขยับตัวสูงขึ้นใน 2H22 จากอุปสงค์ที่ดีขึ้นด้วยแรงหนุนจากพลวัตระดับมหภาคที่เป็นใจ นอกจากนี้ยังเล็งเห็น upside risk ในอนาคตจากอุปสงค์ที่จะไหลเข้ามามากขึ้นหลังจีนเริ่มคลายล็อกดาวน์
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 159.00 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 7.4 พันล้านบาทในโตขึ้น 17% YoY (+4% QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง ส่วนในเชิง QoQ คาดโตขึ้นเล็กน้อยจากรายได้การดำเนินงานที่สูงขึ้น