บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ที่ให้บริการด้านการประกันภัยอย่างครบวงจร รับมอบเครดิตการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) จากสถาบันไทยพัฒน์ เป็นรายแรกในหมวดธุรกิจประกันภัย
ESG Credit เป็นการให้การรับรองโครงการและความริเริ่มที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่ออกให้ในรูปของหน่วยเครดิต ESG จากสถาบันไทยพัฒน์ โดยประเมินจากขนาดของโครงการที่ส่งผลกระทบทางบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือจากการลงทุนที่เน้นปัจจัย ESG ในกรณีที่กิจการมิได้ดำเนินโครงการเอง
บมจ.นำสินประกันภัย ได้รับ ESG Credit จำนวน 2,000,000 เครดิต จากการลงทุนที่เน้นปัจจัย ESG ผ่านกองทุนส่วนบุคคล Thaipat ESG Emerging Private Fund ที่คัดเลือกหลักทรัพย์จาก ESG Emerging Universe ตามเกณฑ์ประเมินด้าน ESG ของสถาบันไทยพัฒน์
Thaipat ESG Emerging Private Fund เป็นกองทุนส่วนบุคคลที่ให้น้ำหนักการลงทุนในหลักทรัพย์คุณภาพที่มีมูลค่าตลาดขนาดกลางและขนาดเล็ก และผ่านเกณฑ์ด้าน ESG โดยเป็นการลงทุนในแบบ Passive Strategy ที่อาศัยความเคลื่อนไหวของช่วงราคาที่กว้างกว่าหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ และการปรับสัดส่วนการลงทุน (Rebalance) ทุก 3 เดือน ในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิงพื้นฐาน
นายสมบุญ ฟูศรีบุญ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.นำสินประกันภัย กล่าวว่า "การที่ บมจ.นำสินประกันภัย ได้รับเครดิตการดำเนินงานด้าน ESG จากสถาบันไทยพัฒน์ในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องรับรองการดำเนินงานของบริษัทที่ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการองค์กรอย่างยั่งยืน รวมทั้งการลงทุนภายใต้แนวคิด ESG โดยหน่วยงานอิสระจากภายนอก"
ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธานสถาบันไทยพัฒน์ กล่าวว่า "สถาบันฯ มีความยินดีที่ทาง บมจ.นำสินประกันภัย ได้รับการรับรองเครดิต ESG จากการลงทุนที่เน้นปัจจัย ESG ผ่านกองทุนส่วนบุคคล Thaipat ESG Emerging Private Fund และเป็นการตอกย้ำถึงสถานะของกิจการในการเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ได้รับรางวัลบริษัทประกันวินาศภัยที่มีการพัฒนาด้านความยั่งยืนในธุรกิจประกันภัยดีเด่น ในปี 2564"
กองทุนส่วนบุคคล Thaipat ESG Emerging Private Fund บริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด โดยจากการทำข้อมูลจำลองการลงทุน (Back-testing) ผลตอบแทนของหลักทรัพย์กลุ่ม ESG Emerging ตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2563 จนถึง 23 พฤษภาคม 2565 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 43.3% เมื่อเทียบกับ SET TRI ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 28.7%