เอไอเอสได้รับการประกาศอันดับเครดิตองค์กร ระดับ“AA” จากทริส ด้วยแนวโน้ม “คงที่” คงความเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย

ข่าวเทคโนโลยี Monday March 24, 2008 14:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--เอไอเอส
เอไอเอส ได้รับการประกาศอันดับเครดิตองค์กร จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด อยู่ที่ระดับ “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย และคณะผู้บริหารที่ดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพที่มีความสามารถในการบริหารงาน ท่ามกลางภาวะ การแข่งขันที่รุนแรง และสามารถนำพาองค์กรให้มีความมั่นคงและเจริญเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “จากการที่บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตองค์กรของเอไอเอสในระดับ ”AA” ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของการบริหารงานของเอไอเอสในการแก้ปัญหา ทั้งในเรื่องของภาวะการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไปและการพัฒนาทางเทคโนโลยี และบริษัทยังประสบความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาวอีกด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาในปี 2550 ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยมีการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งการแข่งขันด้านราคา การออกโปรโมชั่นใหม่ๆ รวมถึงการขยายตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งผู้ประกอบการแต่ละรายยังต้องเผชิญกับเรื่องของความไม่แน่นอนทางด้านกฎระเบียบต่างๆ อย่างไรก็ตามด้วยโครงสร้างขององค์กรที่แข็งแกร่ง คณะผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพ รวมถึงพนักงานที่มีคุณภาพ เอไอเอสก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆเหล่านั้นมาได้ ทั้งในเรื่องของการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไปและการพัฒนาทางเทคโนโลยี จนในที่สุดเอไอเอสสามารถคงความเป็นผู้นำในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย ด้วยฐานลูกค้าที่เชื่อมั่นในคุณภาพ ประสิทธิภาพ การบริการของเอไอเอสกว่า 24 ล้านเลขหมาย คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่มากถึง 46 % ส่งผลให้การดำเนินงานในปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 16,290.46 ล้านบาท”
นายสมประสงค์ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2551 ว่า “โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีแนวโน้มการแข่งขันรุนแรง ดังนั้นการวางกลยุทธ์ทางการตลาดจากนี้จึงมุ่งที่การบริการ โดยเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและบริการภายใต้ราคาที่เท่าเทียมกันในท้องตลาดที่มอบให้กับลูกค้ารายเก่าและรายใหม่ โดยนำความได้เปรียบในเรื่องของการบริการด้านเครือข่ายที่ครอบคลุม มีคุณภาพประสิทธิภาพสูง และที่สำคัญคือการมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีคุณภาพในระดับสูงให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองตอบต่อทุกความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 2551 นี้ คาดการณ์ว่ารายได้ตลาดรวมของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จะโตประมาณ 5- 7% ซึ่งเอไอเอสตั้งเป้าว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 50% ของตลาดรวม”
ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ประกอบกับการเป็นองค์กรที่มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีสภาพคล่องที่พร้อมสำหรับการลงทุนใหม่ๆ และยังคงเตรียมพร้อมสำหรับการวางแผนเพื่อเพิ่มรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง เอไอเอสจึงสามารถรักษาสถานะผู้นำตลาดในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยต่อไปได้ แม้ว่าปัจจุบันอัตราการขยายตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยใกล้ถึงจุดอิ่มตัวก็ตาม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ แผนกสื่อมวลชนสัมพันธ์ โทร. 0 2299 5840

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ