ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง "บมจ.ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย" หรือ "AMARC" เดินหน้าเสนอขายหุ้นไอพีโอ 120 ล้านหุ้น คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปีนี้ ระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนเวียนในการประกอบธุรกิจ เพิ่มศักยภาพการเติบโตของ AMARC พร้อมด้วยการยกระดับองค์กรสู่สากล
นายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC (เอมาร์ค) เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตการเสนอขายหุ้นออกใหม่ต่อประชาชนและแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ AMARC ที่ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ ภายในปี 2565
AMARC เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำทางด้านการบริการทางวิทยาศาสตร์ ด้านเกษตร อาหาร ยา ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ การสอบเทียบเครื่องมือ การตรวจสอบ รับรอง ตามระบบคุณภาพและมาตรฐานสากล ด้วยห้องปฏิบัติการที่ประกอบไปด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลายแขนง มีกลุ่มลูกค้าหลัก ประกอบด้วยเกษตรกรเพาะปลูก ประมง และปศุสัตว์ ผู้ผลิต โรงงานอุตสาหกรรม โรงงานแปรรูป ผู้จัดจำหน่าย และผู้ส่งออก ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหาร และยา ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อย จนถึงบริษัทชั้นนำของประเทศ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานภาครัฐ
ด้วยจุดแข็ง ในด้านความมั่นคงและชื่อเสียง จากการเป็นผู้ให้บริการทางวิทยาศาสตร์มายาวนานกว่า 18 ปี มีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยทำให้สินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทยได้รับการควบคุมคุณภาพ เพื่อร่วมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ วางกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการทดสอบ ตรวจสอบ และรับรอง แบบ Comprehensive Supply Chain Service สำหรับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นผู้ให้บริการจากลูกค้า สามารถรักษาฐานลูกค้ารายเดิมในอัตราที่สูง ขณะที่ทิศทางอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต จึงเป็นโอกาสให้ AMARC ขยายขอบเขตการให้บริการ และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในระดับภูมิภาค ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในหลากมิติ
ดร.ชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC (เอมาร์ค) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และโอกาสในการเติบโต ด้วยองค์กรที่ได้รับความน่าเชื่อถือในระดับสากล เป็นที่รู้จักของผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการเป็นผู้ให้บริการทางวิทยาศาสตร์ ด้านเกษตร อาหาร ยา และสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งการให้บริการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ การสอบเทียบเครื่องมือ การตรวจสอบ รับรอง ตามระบบคุณภาพและมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ส่งออก
โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะมองหาโอกาสในการเติบโต ก้าวเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ พร้อมกับมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและชุมชนไปพร้อมๆ กัน ด้วยมีวิสัยทัศน์ในการ "มุ่งเป็นแล็บชั้นนำระดับสากล ผู้ตรวจสอบและรับรองคุณภาพ ผลิตภัณฑ์เกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม ที่อุตสาหกรรมและผู้บริโภคเชื่อมั่น" เป็นที่ยอมรับและมีความสามารถทัดเทียมในระดับโลก ผลการทดสอบและการตรวจรับรองของบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจ
วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จะนำไปใช้เพื่อการจัดซื้อเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนเวียนในการประกอบธุรกิจ เพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต ตามความต้องการผลิตภัณฑ์การเกษตรและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2564) AMARC มีรายได้รวม 198.04 ล้านบาท 220.19 ล้านบาท และ 248.55 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิ 18.19 ล้านบาท 28.43 ล้านบาท และ 24.86 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.19%,12.91% และ 10.00% ตามลำดับ นอกจากนี้อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ระหว่างปี 2562 - 2564 ของรายได้รวมและกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 12.03% และ 16.91% ตามลำดับ ขณะที่รายได้รวมในงวดไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 64.40 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 6.00 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.32%
ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจการให้บริการทางวิทยาศาสตร์ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการจำนวนน้อยราย แต่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งด้านราคาและคุณภาพของการให้บริการ ซึ่งคู่แข่งของบริษัทฯ มีทั้งห้องปฏิบัติการของภาครัฐ และบริษัทต่างประเทศที่มีขนาดของธุรกิจใหญ่กว่าบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการแต่ละรายมีขอบเขตธุรกิจและการให้บริการไม่เหมือนกัน อาจมีความทับซ้อนกับบริษัทฯ ที่เน้นในกลุ่มธุรกิจเกษตรอาหารเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น ผู้ให้บริการรายอื่นมีบริการทดสอบสินค้าอุปโภค ทดสอบวัตถุดิบอุตสาหกรรม
เป็นต้น
ทั้งนี้ มองว่าความต้องการผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น แปรผันไปในทิศทางเดียวกับมาตรฐานที่เกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ หรือได้มาตรฐานกระบวนการ ตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การจัดการของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงปัจจัยการผลิตต่างๆ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องได้รับการทดสอบและตรวจรับรอง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพ และความปลอดภัยตลอดทั้งห่วงโซ่ของอุตสาหกรรม นับเป็นโอกาสและสนับสนุน AMARC ในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต