เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย รุกขยายธุรกิจ KFC ต่อเนื่อง เตรียมฉลองครบ 430 สาขา พร้อมชูกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ตั้งเป้าผลักดันยอดขายเติบโตกว่า 20%
บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารไทยเบฟ ที่มี KFC เป็นแบรนด์เรือธง ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์การบริหารร้านเคเอฟซีในไทยที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง พร้อมสร้างประสบการณ์ตอบโจทย์คนยุคใหม่ จับมือพันธมิตรในเครือเปิดตัว KFC Cafe by SO COFFEE เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบกาแฟและเครื่องดื่มที่หลากหลาย เป็นการต่อยอดธุรกิจเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง
คุณศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า "ในปี 2565 บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย ตั้งเป้าผลักดันยอดขายเติบโตกว่า 20% ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักประกอบไปด้วย
(1) มัลติ สโตร์ ฟอร์แมต (Multi Store Format) การมีฟอร์แมตของร้านที่หลากหลาย ประกอบกับ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ ซึ่งช่วยในเรื่องการขยายสาขาตามสภาพแวดล้อมเพื่อเข้าถึงกลุ่มบริโภคได้อย่างเหมาะสม ครอบคลุมตั้งแต่ร้านขนาดใหญ่ในห้างสรรพสินค้า ร้านขนาดกลางในสถานีบริการน้ำมัน และ Community mall ไปจนถึง ร้าน "Shop House" ในย่านชุมชน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาสร้างประสบการณ์ใช้งานในรูปแบบใหม่ นำไปสู่การบริการลูกค้าที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ เช่น ร้าน KFC Digital Lifestyle Store สั่ง จ่าย แบบไร้สัมผัสที่แรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ และ ล่าสุด ทางบริษัทฯ ได้ทำการเปิดสาขาแรกในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 3 เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีการอำนวยความสะดวกในการสั่งอาหารผ่านเครื่องสั่งอาหารด้วยตนเอง (Self-Ordering Kiosk) ตลอด 24 ชั่วโมง นับว่าเป็น Branded Store ให้กับ KFC ประเทศไทย ในการต้อนรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
(2) การเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง นอกจากการให้บริการภายในร้านแล้ว การจัดส่งอาหาร (Delivery) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริการแบบซื้อกลับ การบริการในรูปแบบ self-pick up ที่ลูกค้าสามารถสั่งผ่านมือถือได้ล่วงหน้าและเลือกรับจากสาขาที่สะดวก โดยได้ขยายการให้บริการดังกล่าวในทุกช่องทางและทุกพื้นที่ที่มีร้าน KFC อีกทั้งทาง เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย เล็งเห็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางส่งมอบอาหารและบริการที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย "เคเอฟซี ฟู้ดทรัค" ที่มีการเสริมนวัตกรรมต่างๆ อาทิ อุปกรณ์เพื่อลดการใช้พลังงาน และการดูแลเรื่องสุขอนามัยตั้งแต่กระบวนการผลิต การดูแลเรื่องเศษอาหารและถังดักไขมันให้เป็นน้ำสะอาดเพียงพอในการระบายทิ้งตามมาตรฐานที่กำหนดเฉกเช่นเดียวกันกับร้านอาหาร
(3) การขยายการเติบโตผ่านสายผลิตภัณฑ์ KFC ยังคงยึดมั่นในตัวตน ตอกย้ำความเป็นตัวจริงเรื่องไก่ทอด โดยยังคงเดินหน้าคิดค้นพัฒนาเมนูใหม่ รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายออกมารองรับพฤติกรรมผู้บริโภค อีกทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าไปอยู่ในโอกาสการรับประทานของผู้บริโภคให้มากขึ้น
จึงทำให้เกิดการต่อยอดแบรนด์ KFC โดยร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจกับพันธมิตรในเครือ เปิดตัว KFC Cafe by SO COFFEE สร้างสรรค์เครื่องดื่มเอาใจลูกค้าด้วยกาแฟคุณภาพดี เมล็ดกาแฟผ่านการคัดสรรสายพันธุ์คุณภาพจากที่ราบสูงโบโลเวน ประเทศลาว หนึ่งในแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก นำมาเบลนด์ตามสูตรเฉพาะของ KFC Arabica Blend อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ เช่น ช็อกโกแลต, มัทฉะ, สตรอเบอร์รี่พิงกี้ ที่เสิร์ฟรสชาติความอร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งจากการเปิดตัว KFC Cafe by SO COFFEE ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติกาแฟระดับพรีเมียม ในราคาจับต้องได้ สร้างยอดขายเติบโต โดยมีสัดส่วน 40% ของกลุ่มเครื่องดื่ม ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายการให้บริการ KFC Cafe by SO COFFEE ในสาขาของเดอะ คิว เอส อาร์ ออฟ เอเชีย จำนวน 250 สาขาภายในปี 2565 โดยเน้นทำเลสาขาที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ และร้านไดร์ฟ ทรู ครอบคลุมกว่า 50 จังหวัดในประเทศไทย"
การดำเนินธุรกิจ 5 ปีที่ผ่านมาในฐานะพันธมิตรแฟรนไชส์ของเคเอฟซี บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด มุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ที่ดีและการปรับแผนให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ตั้งเป้าสร้างยอดขายเติบโต 20% และเปิดสาขาเพิ่มเติมกว่า 30 สาขาในปี 2565 รวมเป็นจำนวนสาขากว่า 430 สาขา หรือเติบโตกว่า 60% จากปี 2561 ที่ได้รับสิทธิ์เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ซีของ KFC ในประเทศไทย
ปัจจุบันร้านอาหารเคเอฟซีมีทั้งหมด 953 สาขาในประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ 3 บริษัท ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรสไชส์ ได้แก่ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด หรือ QSA , บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG และบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ RD