กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมกับ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ จัดทำโครงการบ้าน ธอส. - กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ รุ่นที่ 5 ขยายโอกาสเพื่อสนับสนุนให้ข้าราชการสมาชิก กบข. ทั่วประเทศ ได้มีที่อยู่ที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองง่ายยิ่งขึ้น มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ปีที่ 1 MRR - 2.25% ปีที่ 2 MRR - 1.50% และตั้งแต่ปีที่ 3 จนตลอดอายุสัญญากู้ เท่ากับ MRR - 1.25% โดยสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้น ไป
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากความร่วมมือของ 2 หน่วยงาน ตั้งแต่ปี 2547 ที่ผ่านมา ในการจัดทำโครงการ ธอส. - กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ รุ่นที่ 1 - 4 และโครงการบ้าน ธอส. เพื่อลดภาระหนี้สมาชิก กบข. รุ่นที่ 1 และ 2 ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการช่วยเหลือให้ข้าราชการได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งในปัจจุบันยังมีข้าราชการสมาชิก กบข. ทั่วประเทศ อีกเป็นจำนวนมากที่ยังต้องการใช้สิทธิพิเศษจากโครงการดังกล่าว ในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จึงได้ร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ จัดทำโครงการ ธอส. - กบข. รุ่นที่ 5 เพื่อเพิ่มโอกาสให้ให้สมาชิก กบข. และข้าราชการที่ไม่ใช่สมาชิก กบข. แต่จะต้องอยู่ในสังกัดเดียวกันกับสมาชิก กบข. ได้มีบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น
“สำหรับสิทธิพิเศษที่ธนาคารเสนอให้กับข้าราชการสมาชิก กบข. ผ่านโครงการนี้ คือ ให้กู้ในวงเงินสูงสุด 110 % ของราคาประเมินที่ดินพร้อมอาคาร หรืออาคาร หรือห้องชุด โดยสามารถกู้ได้สูงสุด 65 เท่า ของเงินเดือน ด้วยอัตราอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ MRR - 2.25% อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 2 เท่ากับ MRR - 1.50% และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 จนตลอดอายุสัญญากู้ เท่ากับ MRR - 1.25% (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.50%) โดยสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2551 และทำนิติกรรมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2552” นายขรรค์กล่าว
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่าเชื่อมั่นว่าโครงการบ้าน ธอส.-กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 5 จะสามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจแก่สมาชิกได้เป็นอย่างดี โดยจากสถิติผู้สนใจยื่นกู้ในโครงการบ้าน ธอส.-กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการทุกโครงการที่ผ่านมานั้น มีสมาชิกยื่นกู้จำนวนกว่า 242,000 ราย คิดเป็นวงเงินกว่า 168,000 ล้านบาท รวมทั้งพบว่ามีการติดต่อสอบถามเรื่องโครงการดังกล่าวจากสมาชิกเป็นจำนวนมาก โดยจากสถิติการติดต่อสอบถามเข้ามายัง กบข. มีข้อสอบถามเรื่องโครงการสินเชื่อบ้านสูงถึงกว่าร้อยละ 70 ของการสอบถามในเรื่องสวัสดิการทั้งหมด
นอกจากนี้ พบว่าในปี 2551 ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเรื่องอัตราดอกเบี้ย และเรื่องปัญหาต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่หากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น มีการลงทุนมากขึ้น ก็จะทำให้มีการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะบ้านถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
หากสมาชิก กบข. ท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการสวัสดิการดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร.1179 กด 6 หรือทางเว็บไซต์
กบข.ที่ www.gpf.or.thหรือที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-645-9000 กด 9 หรือทางเว็บไซต์ ธอส. ที่ www.ghb.co.th