กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--กทม.
คาดหมายปี 51 กทม.จะเบิกจ่ายงบประมาณได้ 84% มากกว่าปีที่แล้ว 7.18% ซึ่งปัจจุบัน สามารถเบิกจ่ายแล้วกว่า 30% ก่อหนี้ได้แล้ว 42.79% และจากการเปรียบเทียบในกระทรวงมหาดไทย กทม.อยู่ในลำดับที่ 4 ที่สามารถบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รักษาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. เกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ว่า ณ วันที่ 29 ก.พ.51 กรุงเทพมหานครเบิกจ่ายงบประมาณปี 2551 ในวงเงินงบประมาณทั้งหมด 60,065 ล้านบาท สามารถเบิกจ่ายแล้ว 30.55% คงเหลือ 69.45% โดยแบ่งเป็นงบประมาณกรุงเทพมหานคร 45,000 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 29.56% คงเหลือ 70.44% งบประมาณอุดหนุน 15,065 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 33.29% คงเหลือ 66.71% เปรียบเทียบการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมในช่วงเวลาเดียวกัน ของปีที่ผ่านมาสามารถเบิกจ่ายได้มากกว่า 6.07% และคาดหมายเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมเมื่อสิ้นเดือน ก.ย.51 จำนวน 84.0% เป็นงบประมาณกรุงเทพมหานครเอง 86.0% และงบอุดหนุน 78.67% ซึ่งจะสามารถเบิกจ่ายในภาพรวมได้มากกว่าปีที่ผ่านมา 7.18%
ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐทั้งประเทศนั้นกรุงเทพมหานคร สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ลำดับที่ 4 ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยสามารถเบิกจ่ายได้ในภาพรวม ประมาณ 43%
สำหรับการก่อหนี้เฉพาะงบลงทุนปี 2551 ณ วันที่ 29 ก.พ.51 วงเงิน 17,139 ล้านบาท ก่อหนี้แล้ว 42.79% คาดว่าการก่อหนี้ถึงสิ้น ก.ย.51 จะสามารถก่อหนี้ได้ 98.33% ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครสามารถก่อหนี้งบลงทุนได้มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 14.79%
ในส่วนของการยื่นของบประมาณอุดหนุนของกรุงเทพมหานครจากรัฐบาล ปี 2552 นั้น กรุงเทพมหานครเสนอคำขอทั้งหมดประมาณ 18,867 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการต่างๆ ตามเป้าหมาย 5 เป้าหมาย คือ 1.เมืองแห่งความสะดวกปลอดภัย ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการคมนาคมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ได้มาตรฐาน 2.เมืองแห่งสิ่งแวดล้อมดี ประกอบด้วยโครงการสิ่งแวดล้อมเมืองที่มีคุณภาพ 3.เมืองแห่งการเรียนรู้ของคนทุกวัย มีความรู้คู่คุณธรรม 4.เมืองแห่งความยู่ดีมีสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และ 5.เมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ประกอบด้วย การดำเนินการด้านศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น ดำรงอยู่คู่สังคมเมือง การลงทุน การพาณิชยกรรมและการท่องเที่ยว ที่มีศักยภาพ