บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี ("AGE") โชว์ฟอร์มเด่น ตามนัด อวดผลงาน 6 เดือนของปี 2565 ทำนิวไฮไม่หยุด กวาดรายได้รวม แตะ 8,267.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.4%(YoY) ขณะที่กำไรสุทธิ 628.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 418% (YoY) สะท้อนความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ควบคู่ความต้องการใช้ถ่านหิน - โลจิสติกส์โตต่อเนื่อง ด้านผู้บริหาร "พนม ควรสถาพร" สั่งปรับเป้ารายได้ ปี 2565 ใหม่เป็นรอบ 2 มั่นใจปีนี้รายได้ทะยานแตะ 18,000 ล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) ("AGE") (Mr. PANOM KUANSATAPORNCHAIRMAN EXECUTIVE COMMITTEE MANAGING DIRECTOR ASIA GREEN ENERGY PUBLIC COMPANY LIMITED ) ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 8,267.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.4 % (YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 7,976.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.5 % (YoY) และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ที่ 291.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8 % (YoY) ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ ในงวด 6 เดือน แตะระดับ 628.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 417.9 % ที่มีกำไรสุทธิ 121.3 ล้านบาท (YoY) โดยมีปริมาณยอดขายถ่านหินรวม ณ งวด 6 เดือนแรกที่ 1.92 ล้านตัน
ส่วนงวดไตรมาส 2/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 4,553.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.8 % (YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 4,398.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.1 % (YoY) และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ 154.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.8% (YoY) ส่งผลให้กำไรสุทธิ แตะระดับที่ 313.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 83,298.2% ที่มีกำไรสุทธิ 0.4 ล้านบาท
ถึงแม้ว่าดัชนีราคาถ่านหินโลกยังคงมีการปรับตัวค่อนข้างผันผวนแต่ AGE มีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาต้นทุนของถ่านหินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งเกี่ยวกับสินค้าประเภทปูนซีเมนต์ ทราย แก้ว และกากอุตสาหกรรม กลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี "AGE" กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้การขับเคลื่อนกลยุทธ์ทั้งในส่วนของธุรกิจการจำหน่ายถ่านหิน ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก (Core Business) ควบคู่กับการให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งที่ AGE สะท้อนออกมาให้เห็นถึงการเติบโตของผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง จากความต้องการใช้ถ่านหินที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศ โดยเตรียมทยอยส่งมอบถ่านหินในช่วงครึ่งปีหลังกว่า 4 แสนตัน ขณะที่แผนการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ (ทางบก ทางน้ำ บริการท่าเรือ และบริการให้เช่าคลังสินค้า) ที่จะดำเนินการในปี 2565 ได้แก่ ลงทุนรถบรรทุกเพิ่ม 20 คัน มูลค่า 80 ล้านบาท ลงทุนโกดังเก็บสินค้ามูลค่า 40 ล้านบาท และลงทุนในระบบบริหารจัดการ IT มูลค่า10 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ในระยะยาว และเสริมสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัทฯ
และจากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ พิจารณาปรับเป้าหมายรายได้ปี 2565 ใหม่ ที่ระดับ 18,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 16,000 ล้านบาท และมีปริมาณยอดขายถ่านหินรวมอยู่ที่ 4.5 ล้านตัน
" ในปี 2656 ถือเป็นปีที่โดดเด่นของ AGE แม้ว่าราคาถ่านหินจะมีความผันผวน และอยู่ในระดับที่สูง แต่บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนราคาถ่านหิน และค่าขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับ ภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มมีการฟื้นตัว ภายหลังสถานการณ์โควิด จึงทำให้คาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะมีความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง AGE ยังมีธุรกิจให้บริการขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า ซึ่งมีการขยายตัวอย่างโดดเด่น และยังมีแผนขยายการเติบโตไปยังธุรกิจเทรดดิ้งด้านการจำหน่าย และการส่งออกสินค้าเกษตร ซึ่งจะเริ่มมีรายได้ในปี 2565 ทำให้บริษัทฯ ประกาศปรับเป้ารายได้ใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 18,000 ล้านบาท"