"KCC" ไม่ทำนักลงทุนผิดหวัง อวดกำไรไตรมาส 2 สุดหรู กว่า 42.76 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดกว่า 258.72% หนุนงบงวดครึ่งแรกปี 65 กำไรสุทธิ 61.87 ล้านบาท พุ่ง 92.20% หลังนำเงิน ไอพีโอ-หุ้นกู้ ลุยลงทุนซื้อหนี้ NPL ดันพอร์ตพุ่งทะลุ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว ความสามารถทำกำไรอยู่ในระดับ 87.42% บอร์ดใจถึงปันผลกลางปีหุ้นละ 0.037 บาท มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย และการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 42.76 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 258.72% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 123.64% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 61.87 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 92.20% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามในงวดไตรมาส 2 และงวด 6 เดือน บริษัทมีรายได้ 68.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.32% และมีรายได้ 93.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% ตามลำดับ โดยรายได้จากการดำเนินงานส่วนใหญ่กว่า 97.35% มาจากรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและส่วนที่เหลือเป็นกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายและรายได้จากการดำเนินงานอื่น
ทั้งนี้ บริษัทได้ทยอยนำเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 576.49 ล้านบาท และจากการออกหุ้นกู้วงเงิน 350 ล้านบาท ไปลงทุนซื้อหนี้ NPLs เพิ่มขึ้น โดยในระหว่างงวดไตรมาส 2 บริษัทได้ลงทุนซื้อหนี้ ไปกว่า 539.64 ล้านบาท ส่งผลให้พอร์ตเงินลงทุนในหนี้ NPLs ของบริษัท ณ สิ้นเดือน มิ.ย.ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 996.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.32% จากช่วงสิ้นไตรมาสแรกปี 2565 อยู่ที่ 527.40 ล้านบาท ทำให้ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2565 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 1,768.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 จำนวน 1,032.62 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 140.34%
"บริษัทยังคงรักษาจุดเด่นที่แข็งแกร่ง คือความสามารถในการทำกำไร ที่อยู่ในระดับสูง โดยอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ยังคงอยู่ในระดับ 87.42% ต่อเนื่องจากสิ้นไตรมาสแรก มีมาร์จิ้นที่ระดับ 88.35 % และมีอัตรากำไรสุทธิ 46.28% เพิ่มขึ้น 6.67% จากสิ้นไตรมาสแรก อยู่ที่ 39.61% ซึ่งบริษัทยังคงเน้นลงทุนในหนี้ NPLs ที่เป็นธุรกิจเป็นหลักในสัดส่วนกว่า 80% ของเงินลงทุนในหนี้ NPLs ทั้งหมดของบริษัท เพราะมีความชำนาญและเชี่ยวชาญมากว่า 20 ปี" นายทวี กล่าว
นายทวี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2565 มีมติให้บริษัทจ่ายปันผลงวดระหว่างกาลสำหรับผลดำเนินงานตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2565 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.037 บาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 25 ส.ค.และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 24 ส.ค.และเงินจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 ก.ย.2565
"ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ถือหุ้นของบริษัททั้งหมดได้รับเงินปันผล เพราะก่อนหน้าที่จะขายไอพีโอบริษัทก็ไม่เคยจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งการจ่ายเงินปันผลงวดกลางปีครั้งนี้ ทั้งผู้ถือหุ้นเดิมก่อนขายหุ้นไอพีโอ และผู้ถือหุ้นหลังขายไอพีโอ จะได้รับเงินปันผลพร้อมๆ กัน ตอกย้ำว่า KCC จะเป็นทั้งหุ้นโกรทและหุ้นปันผล ให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นของบริษัท" นายทวี กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล กล่าวถึงทิศทางการทำธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ว่า ยังมีโอกาสขยายพอร์ตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกจากปริมาณหนี้ NPLs ที่สถาบันการเงินจะนำออกมาประมูลเพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้จะซื้อหนี้ NPLs จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งครึ่งแรกซื้อไปแล้วกว่า 539.64 ล้านบาทและจะทยอยซื้อหนี้ NPLs ต่อเนื่อง และคาดว่าเมื่อสิ้นปี 2567 มูลค่าเงินลงทุนในพอร์ต NPLs จะสามารถขยับขึ้นไปอยู่ในระดับที่มากกว่า 2,100 ล้านบาท