กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ในวันนี้ บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Kempinski Hotels & Resorts (Kempinski) เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกันในการขยายธุรกิจโรงแรมออกไปยังภูมิภาคยุโรปและเอเชีย ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของ MINT ในการดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในภูมิภาคเอเชียภายใต้แบรนด์ อนันตรา ซึ่งเป็นแบรนด์ของตนเอง ทำให้ MINT อยู่ในฐานะที่สามารถให้การสนับสนุนแก่กลุ่ม Kempinski ในการแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจโรงแรมรวมถึงให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิค ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการเติบโตของกลุ่ม Kempinski ในทางกลับกัน Kempinski เองก็มีโรงแรมในเครือหลายแห่ง กอปรกับมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจโรงแรมเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งของแบรนด์ อนันตรา ในการขยายฐานการดำเนินธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายต่อไป
“เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมากกับอีกก้าวหนึ่งของ อนันตรา ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มุ่งขยายไปสู่ตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญเพื่อให้บริการแก่แขกที่มาพักได้ค้นพบและสัมผัสประสบการณ์กับอนันตรา และจากการผนึกกำลังกับพันธมิตรอย่างKempinski ซึ่งเป็นแบรนด์คุณภาพที่มีชื่อเสียงในยุโรปในด้านความหรูหรา โอ่อ่า และการมีก่อตั้งมายาวนาน ผมเชื่อว่าการจับมือกันในครั้งนี้จะช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้ซึ่งกันและกัน” วิลเลี่ยม ไฮเน็ค ประเจ้าหน้าที่บริหารของ บมจ. ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว
ความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มโรงแรมอนันตรา และ Kempinski ถือได้ว่าเป็นพัฒนาการที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งในการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะรับมือการกับเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและการแข็งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจโรงแรม ไมเคิล เซลบีย์ ประธานกรรมการ Kempinski ได้กล่าวเสริมว่า “Kempinski มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ อนันตรา ซึ่งมีการเติบโตในอัตราที่น่าประทับใจ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในด้านคุณภาพของบริการประกอบกับโรงแรมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในขณะที่ Kempinski เองก็เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจโรงแรมระดับห้าดาวในหลายแห่งทั่วโลก เราเชื่อว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยดึงทรัพยกรของทั้งสองกลุ่มมาใช้ในการนำเสนอบริการให้กับแขกผู้มาพักได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เกินความคาดหมาย”
“ด้วยแผนการขยายโรงแรมในเครืออนันตรา ปัจจัยสำตัญ ก็คือการมีพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งจะช่วยให้ทำให้เรารู้จักท้องถิ่นรวมถึงทักษะความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจในยุโรปและในภูมิภาคอื่นๆ ที่เป็นเป้าหมายต่อไป นอกจากนี้ การร่วมมือกับพันธมิตรยังจะก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาดในการพัฒนาและการบริการคำปรึกษาทางด้านเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ความรู้ความชำนาญในสถานที่เป็นการเฉพาะ” ไมเคิล ซากิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวเสริม
อนันตรา เป็นคำสันกฤตโบราณ หมายถึง สายน้ำที่ไม่มีวันสิ้นสุด ชื่อนี้ได้ถูกนำมาใช้มาเนื่องจากสอดคล้องความเชื่อในเรื่องของความมั่งคั่งและความโชคดีในวัฒนธรรมของชาวเอเชียในหลายต่อหลายแห่ง อนันตรา ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมพื้นเมืองซึ่งให้ความรู้สึกถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น และปัจจุบันมีโรงแรมในเครืออนันตรา 3 แห่งในประเทศไทยและ 2 แห่งที่ประเทศมัลดีฟส์ และ 1 แห่งที่บาหลี โดยสมาชิกใหม่ในเครืออนันตรา คือ อนันตรา สิมินยัค บาหลี ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2551 และในเดือนตุลาคมปีนี้ คาดว่าจะเปิดอนันตรา ภูเก็ต ตั้งอยู่ที่หาดไม้ขาว ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต
Kempinski Hotels and Resorts เป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2440 โรงแรมในเครือKempinski ล้วนแล้วแต่เป็นโรงแรมระดับหรูหราและมีชื่อเสียงกว่า 55 แห่ง ในทวีปยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาเอเชียและอเมริกาใต้
บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ผู้นำในการดำเนินธุรกิจโรงแรม ซึ่งประกอบด้วย 16 โรงแรมและมีห้องพักกว่า 2,500 ห้อง ภายใต้เครื่องหมายการค้า อนันตรา แมริออทส์ โฟร์ซีซั่นส์ และในเครือไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งในประเทศไทย มัลดีฟส์ เวียดนามและอินโดนีเซีย ในขณะเดียวกันบริษัทยังเป็นผู้ให้บริการด้านสปาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยมีสถานบริการ 24 แห่ง ในประเทศไทย จีน และประเทศแถบตะวันออกกลาง ภายใต้เครื่องหมายการค้ามันดารา และอนันตรา นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ประกอบไปด้วยร้านอาหารจำนวนสาขากว่า 850 สาขา ภายใต้เครื่องหมายการค้า เดอะพิซซ่า สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เลอร์ แดรี่ควีน เบอร์เกอร์คิงเลอแจ๊ซ และเดอะ คอฟฟี่ คลับ ในเดือนมกราคม 2550 บริษัทได้รับการยอมรับจากนิตยสารเอเชียมันนี่ว่าเป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการดีเยี่ยมในกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดเล็กของประเทศไทย ซึ่งพิจารณาจากผลการดำเนินงาน การดำเนินกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร และการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น รายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.minornet.com
Press Contacts: Pratana Manomaiphiboon / Prapharat Tangkawattana / Jim Fralick at Tel: (662) 381-5151