บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ ("QTC") อวดผลงานไตรมาส 2/2565 โกยรายได้รวม 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับ YOY และมีกำไรสุทธิ 7.61 ล้านบาท รับดีมานด์การใช้หม้อแปลงไฟฟ้าพุ่ง บวกยอดขายโซลาร์เซลล์คึกคัก หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย รับการเปิดประเทศ CEO "พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน" เผยครึ่งปีหลัง 2565 ลุยเปิด EV Charging Station - EV Charger (Wallbox) เจาะฐานลูกค้าที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า หนุนทั้งปีรายได้เข้าเป้า 1,200 ล้านบาท
บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตจัดจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า และงานด้านบริการ 230.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter 82.48 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของ บริษัท คิวโซลาร์ 1 จำกัด ขนาด 8.6 MW อยู่ที่ 11.40 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 7.61 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 547.76 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 423.05 ล้านบาท และเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter 122.28 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่ 22.53 ล้านบาท
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ "QTC" เปิดเผยถึงปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องว่า ความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับการเปิดประเทศของประเทศต่างๆ ส่งผลให้สามารถเดินทาง และการขนส่งกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลและภาคเอกชนออกมาต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ ให้กับ LONGI Solar, Trina Solar และเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Inverterให้กับ Huawei ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มการใช้งานในกลุ่มสินค้าโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้น จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้อัตราค่าไฟฟ้าปรับตัวขึ้นตาม
ส่วนภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2565 นั้น บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจรมากขึ้น ผ่านการลงทุนร่วมกับพันธ์มิตร อาทิ การลงทุนผลิตเครื่อง EV Charger ขนาด 120 kW ที่ใช้ติดตั้งตามสถานีอัดประจุไฟฟ้า และการลงทุนในธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ซึ่งในไตรมาส 3/2565 นี้คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ 2 สถานี และในไตรมาส 4 คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 2 สถานี และในส่วนของ EV แบรนด์ Wallbox บริษัทมีการทำการตลาดแบบเชิงรุกเพิ่มขึ้น ในกลุ่มที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยตั้งเป้ายอดขายในระยะแรกไว้ประมาณ 50 ล้านบาท
"จากแผนการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทดังกล่าวข้างต้น เชื่อว่าเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่วางไว้ 1,200 ล้านบาทเป็นไปตามแผนอย่างแน่นนอน ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์โซลาร์เซลล์ในมือ (Backlog)แล้ว 150 ล้านบาท และออเดอร์หม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ในมือ (Backlog) จำนวน 400 ล้านบาท และในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามาอีกประมาณ 300-500 ล้านบาท"