"บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ หรือ BRR" ประกาศผลงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 กำไรเติบโตอลังการอยู่ที่ 716.05 ล้านบาท พุ่งทะยาน 209.71% รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 5,043.22 ล้านบาท เติบโตกว่า 146% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน รับผลบวกจากราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้นและรับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า แย้ม H2 เติบโตในทิศทางที่ดี มั่นใจกลุ่มธุรกิจโตในทุกมิติ เชื่อรายได้พุ่ง 70% มากกว่าแผนที่วางไว้ เมื่อเทียบกับปีก่อน
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 716.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 484.85 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างชัดเจน 209.71% จากงวดเดียวกันของปี 2564 ที่มีกำไร 231.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.20% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอัตรากำไรสุทธิ 11.30% สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลบวกจากราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดยมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 5,043.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,997.13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 146.48% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2,046.09 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนปริมาณและราคาขายน้ำตาล โดยบริษัทมีปริมาณการขายน้ำตาลเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 147,481 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 173% รวมถึงราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยในปี 2565 ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลกเมื่อเทียบกับปี 2564 เฉลี่ย 22% ต่อตันน้ำตาล
สำหรับศักยภาพการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ BRR ในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 70% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมากกว่าแผนที่วางไว้ เหตุจากทุกธุรกิจในเครือเติบโต หนุนรายได้เติบโตแข็งแกร่ง และมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจที่เน้นความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างธุรกิจบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย และธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิงชีวมวล อีกทั้งธุรกิจหลักมีแนวโน้มขาขึ้นจากความต้องการน้ำตาลในตลาดโลกขยายตัว ประกอบกับปริมาณผลผลิตน้ำตาลที่ออกสู่ตลาดมีจำนวนเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มผลงานในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก โดยรับปัจจัยเชิงบวกด้วยราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นระยะๆ บวกกับสภาพอากาศในบราซิลซึ่งส่งผลให้ผลผลิตอ้อยในพื้นที่เพาะปลูกลดลง อีกทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าอาจเกิดวิกฤติการขาดแคลนอาหารทั่วโลก ส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิด รวมถึงน้ำตาล แม้จะมีข่าวออกมาว่าปริมาณน้ำตาลส่งออกจากอินเดีย เพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 2.00 - 2.50 ล้านตัน ส่งผลให้ตลาดน้ำตาลลดแรงกดดันเรื่องการขาดดุลน้ำตาลในปีนี้ลงบ้าง
"อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าเป็นช่วงที่ตลาดน้ำตาลยังเป็นไปในเชิงบวก โดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำตาลทรายดิบในระยะเวลา 2 - 3 เดือนนี้จะอยู่ในช่วงราคา 18.5 - 20 เซนต์/ปอนด์ เนื่องด้วยปัจจัยที่มาสนับสนุนราคาตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจส่งออกน้ำตาลของไทยในปี 2565 โดยผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 2565/66 ของโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6 - 2.7 ล้านตัน สูงกว่าฤดูการผลิตที่แล้วประมาณ 10% - 14% ประกอบกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อรายได้จากการส่งออกน้ำตาล และภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัท" นายอนันต์ กล่าวปิดท้าย