เชฟรอนลงนามสัญญาก่อสร้างครั้งสำคัญ ‘โครงการผลิตก๊าซธรรมชาติปลาทอง ระยะ 2’ คาดการก่อสร้างจะเริ่มได้ปลายปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 26, 2008 15:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--เชฟรอนประเทศ
บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ลงนามในสัญญาว่าจ้างด้านวิศวกรรม ก่อสร้าง การจัดซื้อ และติดตั้งอุปกรณ์ ในโครงการพัฒนาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งปลาทอง ระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 200 กิโลเมตร โดยจะมีการก่อสร้างแท่นผลิตกลางและแท่นที่อยู่อาศัยในอ่าวไทย โดยการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มในไตรมาสที่สี่ของปี 2551 นี้
เชฟรอน ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานในโครงการพัฒนาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งปลาทอง ระยะที่ 2 โดยมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 69.8 และมีผู้ร่วมทุนคือ บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น จำกัด ร้อยละ 27.4 และ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 2.8 ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างด้านวิศวกรรมก่อสร้างดังกล่าว กับบริษัทในเครือของ เจ เรย์ แม็กเดอร์ม็อตต์ เอส เอ
โจ จาจา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอนเอเชียเซ้าท์ จำกัด กล่าวว่า “เชฟรอนมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของประเทศไทยที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น เชฟรอนเป็นผู้นำด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้จัดหาพลังงานที่เป็นที่น่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับด้านผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในระดับสากลตลอดระยะเวลากว่า 45 ปี ที่อยู่ในประเทศไทย ”
“โครงการพัฒนาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งปลาทอง ระยะที่ 2 เป็นโครงการยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเชฟรอนเติบโตในภูมิภาคนี้ ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยโดยรวม ให้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 2,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน” โจ จาจา กล่าวเพิ่มเติม
เชฟรอนคาดว่าโครงการพัฒนาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งปลาทอง ระยะที่ 2 จะสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้มากกว่า 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยแท่นผลิตได้รับการออกแบบให้สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้สูงสุดถึง 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยใช้งบประมาณในการพัฒนาโครงการทั้งสิ้นประมาณ 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 99,000 ล้านบาท โดยในปี 2550 ที่ผ่านมาเชฟรอนมียอดการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวได้เฉลี่ยมากกว่า 138,000 บาร์เรลต่อวัน (สุทธิ 71,000 บาร์เรลต่อวัน) และสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้เฉลี่ย 1,700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (สุทธิ 916 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน)
นายธารา ธีรธนากร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวเสริมว่า “โครงการก๊าซธรรมชาติปลาทอง ระยะที่ 2 นี้ คาดว่าจะสามารถรองรับปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติโดยรวมของไทยในปี 2554 ได้ถึงประมาณร้อยละ 7 หรือประมาณร้อยละ 14 ของความต้องการก๊าซธรรมชาติที่นำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ โครงการจะช่วยให้เกิดการจ้างงานและรายได้จำนวนมากให้แก่ประเทศอีกด้วย
เราคาดว่าการก่อสร้างและติดตั้งแท่นโครงสร้างต่างๆ ของโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2553 และวางแผนที่จะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในปี 2554 โดยแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติกลางซึ่งมีขนาด 19,000 ตันนี้ นับเป็นความสำเร็จด้านเทคโนโลยี โดยจะเป็นหนึ่งในแท่นผลิตกลางที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวไทยอีกด้วย”
ทั้งนี้ องค์ประกอบหลักของโครงการก๊าซธรรมชาติปลาทอง ระยะที่ 2 นี้ จะประกอบไปด้วย แท่นผลิตกลาง 1 แท่น แท่นที่อยู่อาศัยขนาด 200 คน และสะพานเชื่อมต่อระหว่างแท่น นอกเหนือจากในส่วนของสัญญานี้ บริษัท เชฟรอนฯ จะทำการติดตั้งแท่นหลุมผลิตในเบื้องต้นอีก 5 แท่น และท่อก๊าซเชื่อมต่อระหว่างแท่นหลุ่มผลิตในอ่าวไทย โดยในส่วนแท่นหลุมผลิตนี้จะดำเนินการก่อสร้างและประกอบในประเทศไทยทั้งหมด” คุณธารากล่าวเพิ่มเติม
เกี่ยวกับเชฟรอน ประเทศไทย
บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 45 ปี และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการปฏิบัติงานทั้งทางด้านความปลอดภัย และการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับมาตรฐานสากล ปัจจุบันเชฟรอนมีแท่นผลิตปิโตรเลียมมากกว่า 195 แท่นในอ่าวไทย โดยในปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมาเชฟรอนมียอดการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวโดยเฉลี่ยประมาณ 138,000 บาร์เรลต่อวัน (สุทธิ 71,000 บาร์เรลต่อวัน) และสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติโดยเฉลี่ยประมาณ 1,700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (สุทธิ 916 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน) เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานของคนไทย
ท่านสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเชฟรอนเพิ่มเติมได้ที่ www.chevron.com หรือ www.chevronthailand.com
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
พรสุรีย์ กอนันทา หรือ วิริยาภรณ์ ตันตินิพันธุ์กุล
โทร 0-2545-5014/ 6409
Email: pornsuree@chevron.com หรือ WNTA@chevron.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ