AIS - กลุ่มเซ็นทรัล 2 ขั้วผู้นำโทรคมนาคมและค้าปลีก ดันภารกิจสร้างภูมิคุ้มกันประเทศ สอดประสานจุดแข็งสู่ต้นแบบการจัดการระบบวัคซีนประสิทธิภาพสูงเคียงข้างทุกภาคส่วน
การปูพรมฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับคนไทยนับเป็นอีกหนึ่งวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนกำลังร่วมมือกันเข้ามาร่วมสอดประสานการทำงานเพื่อให้ประเทศสามารถสร้างภูมิคุ้มกันจนสามารถผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดครั้งนี้ไปให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง 2 ผู้นำต่างภาคอุตสาหกรรมอย่าง AIS ผู้นำในธุรกิจโทรคมนาคม และ กลุ่มเซ็นทรัล (CENTRAL GROUP) ยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีก เดินหน้าภารกิจครั้งสำคัญของประเทศในการร่วมสนับสนุนภาคสาธารณสุขสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนไทยผ่านการใช้ศักยภาพและความแข็งแกร่งร่วมกัน ด้วยการเสนอพื้นที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลกว่า 144 แห่งทั่วประเทศ พร้อมจัดเต็มโครงข่ายสัญญาณ AIS 5G, 4G และ WiFi รวมถึงบริการดิจิทัลที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับบุคลาการทางการแพทย์และประชาชนที่เดินทางมาฉีดวัคซีนอย่างเต็มกำลัง
นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า "ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มเซ็นทรัลได้นำศักยภาพความแข็งแกร่งของธุรกิจในเครือทั่วประเทศด้วยการเสนอพื้นที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลกว่า 144 แห่งทั่วประเทศ ด้วยการสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยารักษา ฯลฯ และทำงานร่วมกันกับพันธมิตรและคู่ค้า
โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรสำคัญอย่าง AIS ที่จะมาให้บริการสัญญาณเครือข่ายอำนวยความสะดวกการทำงานให้กับทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากร รวมถึงประชาชนที่จะมาเข้าใช้บริการ นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญในช่วงวิกฤตครั้งใหญ่ที่จะทำให้เราสามารถสร้างต้นแบบพื้นที่การจัดการระบบการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเกิดจากการใช้ศักยภาพความแข็งแกร่งของเราและพันธมิตรอย่าง AIS ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติต่อไป"
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS อธิบายเสริมว่า "ที่ผ่านมา AIS และกลุ่มเซ็นทรัลทำงานร่วมกันมาโดยตลอดเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในแง่ของการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย กิจกรรมเพื่อสังคม หรือแม้แต่เรื่องความยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญที่กลุ่มเซ็นทรัล และ AIS ขอส่วนหนึ่งในการทุ่มเทสรรพกำลังของทีมงานและ Digital Infrastructure เข้าสนับสนุนเครือข่ายสัญญาน AIS 4G, 5G และ WiFi ในพื้นที่ของกลุ่มเซ็นทรัลซึ่งมีการดำเนินงานเสร็จสิ้นพร้อมให้บริการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนไทยไปแล้วหลายจุดเช่น ชั้น 3 Sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า หรือแม้แต่พื้นที่ต่างจังหวัดอย่าง โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลโคราช และยังคงจับมือร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลในทุกพื้นที่เพื่อฟื้นฟูประเทศให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
แน่นอนว่าสำหรับ AIS เราเดินหน้าสนับสนุนภาคสาธารสุขในการรับมือกับ COVID-19 มาโดยตลอดภายใต้แนวคิดการทำงาน เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย ทำให้ทีมวิศวกรและบุคลากรของเรามีความเข้าใจถึงความต้องการการใช้งานของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนเป็นอย่างดี ในส่วนของการเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้นมีกระบวนการและขั้นตอนการทำงานพอสมควร ตั้งแต่การลงทะเบียน ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต คัดกรอง ซักประวัติ การสังเกตอาหารหลังฉีด นอกเหนือจากพื้นที่อำนวยความสะดวกแล้ว เครือข่ายสัญญาณที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของภารกิจนี้เช่นกัน จะเห็นว่าวันนี้ความต้องการในการฉีดวัคซีนของคนไทยมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราต้องประเมินความหนาแน่นของการใช้งานให้เพียงพอ รวมถึงต้องทำให้ข้อจำกัดในการทำงานแต่ละขั้นตอนของบุคลากรทุกฝ่ายหน้างานมีน้อยที่สุดให้การทำงานราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
การเดินหน้าภารกิจครั้งสำคัญนี้จึงเป็นการต่อยอดนโยบายที่มีความสอดคล้องกันในมิติของการทำธุรกิจเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน ที่ทั้ง AIS และกลุ่มเซ็นทรัลมีเป้าหมายเดียวกันในการสนับสนุนเป้าหมายของภาคสาธารณสุขให้สามารถฉีดวัคซีนให้กับคนไทยได้อย่างครบถ้วน จึงนับว่าเป็นการสอดประสานการทำงานของ 2 องค์กรยักษ์ใหญ่จากฝั่งโทรคมนาคมและธุรกิจค้าปลีกได้อย่างลงตัวและจะทำให้เป็นพื้นที่จุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลต้นแบบที่การจัดการระบบวัคซีนประสิทธิภาพสูงในที่สุด
เกี่ยวกับโครงการ AIS 5G เชื่อมต่อช่วยเหลือเพื่อคนไทย
AIS ส่งต่อความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์โควิด ตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดในปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้น 3 ด้าน คือ 1. สนับสนุนเครือข่ายสื่อสาร 5G, 4G,Free WIFI หนุนการทำงานของภาคสาธารณสุข ประกอบด้วย โรงพยาบาลสนาม ทั่วประเทศ ล่าสุดจำนวน 81 แห่ง 20,405 เตียง พร้อมจุดฉีดวัคซีนอีก 53 จุด ใน กทม.และต่างจังหวัด รวมถึง เสริมเครือข่ายในบริเวณโรงพยาบาลทั่วประเทศ 2. สนับสนุนบริการดิจิทัล อาทิ แอพพลิเคชั่น อสม.ออนไลน์ ให้แก่กลุ่ม อสม.ช่วยในการทำรายงานและคัดกรอง, หุ่นยนต์คัดกรอง ROC-Robot For Care, เทคโนโลยี 5G AI CT Scan ปอด, เทเลเมดิซีน-ระบบโทรเวชกรรม , ระบบ CLOUD Contact Center สายด่วน, ระบบ NB IoT Tracking และ แพลตฟอร์มวัคซีน 3. สนับสนุนอุปกรณ์สื่อสาร-ไอที พร้อมซิมและค่าบริการ แก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริม สนับสนุนภารกิจต้านภัยโควิดของประเทศไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้อย่างดีที่สุด (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2564)