กรุงเทพมหานคร (19 สิงหาคม 2565) : คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ร่วมกับ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์, ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน), กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน), สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, การกีฬาแห่งประเทศไทย, สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน), สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง บูรณาการจัดแถลงผลการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ระหว่างปี พ.ศ. 2563 - 2565 ภายใต้แนวคิด ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พลิกโฉมประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลง : CSLH Thailand Collaboration for Change นำคณะแถลงผลโดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พร้อมด้วยประธานอนุกรรมการหลักทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ด้านวัฒนธรรม คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ด้านกีฬา นายนคร ศิลปอาชา ด้านแรงงาน และนายรณภพ ปัทมะดิษ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน โดยงานจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ณ สุราลัยฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม
นายวิษณุ เครืองาม (รองนายกรัฐมนตรี) กล่าวถึงการปฏิรูปประเทศในภาพองค์รวมว่า "คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุดนี้ เป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ที่แต่งตั้งเพิ่มเติมจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 12 ด้านที่มีอยู่เดิม เพื่อให้การจัดทำและขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปมีความครอบคลุมยิ่งขึ้น ตลอดช่วงเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลได้สนับสนุนการเดินหน้าตามแผนปฏิรูปประเทศทั้ง 13 ด้าน และการสร้างผลงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ประชาชนมีความพึงพอใจต่อการบริการภาครัฐที่รวดเร็วมากขึ้น ขั้นตอนลดลง ประชาชนได้รับความสะดวกในการติดต่อกับราชการซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจของสถาบันชั้นนำในต่างประเทศที่ประเมินว่าภาครัฐของไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด การบริการต่างๆ อยู่ในรูปแบบของดิจิทัลมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการและการประกอบธุรกิจอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ผลการดำเนินงานข้างต้นก็เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าการปฏิรูปได้เดินมาอย่างถูกทิศทางถึงแม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและการขับเคลื่อนบ้างก็ตาม คณะกรรมการฯ ก็ได้ปรับวิธีการทำงานโดยใช้ความร่วมมือและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในภาคส่วนต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จนก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งการริเริ่มและดำเนินการแล้วเสร็จ ผมอยากถือโอกาสนี้เน้นย้ำกับทุกท่านว่า การปฏิรูปประเทศหรือการเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องใช้เวลาเพราะต้องเปลี่ยนแปลงในสิ่งเดิมมาสู่สิ่งใหม่ ต้องอาศัยภาครัฐในการสร้างและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และจะต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมในการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การรับมือกับสถานการณ์ด้านกำลังคนต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในอนาคตที่นับวันจะคาดการณ์ได้ยากขึ้น"
ด้าน ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ได้กล่าวถึงผลการปฏิรูปประเทศทั้ง 4 ด้าน โดยรวมว่า "การปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้เริ่มต้นเขียนแผนงาน วางโครงการตั้งแต่ปี 2563 โดยใช้การทำงานในรูปแบบใหม่ คือ การหาความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรมหาชน และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆเข้ามาช่วยกันให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรม และดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับผลงานการปฏิรูปที่ได้เริ่มต้น ดำเนินการ และมีให้เห็นแล้วในตอนนี้ คือ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยได้สร้างศูนย์การเรียนรู้ให้ประชาชนบนสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งตอนนี้ได้เปิดให้บริการเป็นที่แรกที่สถานีรถไฟฟ้าจตุจักร และยังตามมาด้วยสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ โดยประชาชนสามารถหาความรู้ อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ เพียงสแกนคิวอาร์โค๊ดก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ เราอยากทำให้ได้ทุกๆที่ จะได้ปลูกฝังค่านิยมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่หันมาอ่านหนังสือกันเยอะๆ ส่วนด้านแรงงาน เราได้ทำระบบ E-Workforce Ecosystem Platform ที่สามารถทำให้การหางานทำ และการรับสมัครงานเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น ระบบจะช่วยให้บริษัท หรือหน่วยงานต่างๆ ได้แรงงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และในระบบยังมีการพัฒนาความรู้ความสามารถให้แก่แรงงานอีกด้วย ในด้านวัฒนธรรม เราสร้างลานวัฒนธรรม ถนนวัฒนธรรม ในหลายๆจังหวัด ส่วนด้านกีฬา ก็มีการสร้างลานกีฬา ถนนกีฬา ในชุมชนต่างๆและมีการร่วมมือกับภาคเอกชน สร้างลานกีฬาในห้างสรรพสินค้า เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมาออกกำลัง เพื่อร่างกายที่แข็งแรง ทั้งนี้ ผลการปฏิรูปทั้งหมดที่ผมกล่าวมาเราอยากให้ประชาชนได้ผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ มากที่สุด"
รายละเอียดและกิจกรรมสำคัญในการปฏิรูปด้านวัฒนธรรม คณะอนุกรรมการด้านวัฒนธรรมฯ ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กรมศิลปากร สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนเป้าหมายการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม ในการส่งเสริม ประชาชนมีคุณธรรมจริยธรรมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจฐานวัฒนธรรม ผ่านการดำเนินกิจกรรมปฏิรูปที่สำคัญ ใน 2 กิจกรรม ได้แก่
1. การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในทุกช่วงวัย ผ่านการปฏิรูปอุตสาหกรรมบันเทิงและการใช้กลไกร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การพัฒนามาตรฐานคุณธรรม การถอดบทเรียนชุมชนคุณธรรมต้นแบบ 204 แห่ง การมอบรางวัลคุณธรรมอวอร์ด และการพัฒนาระบบเครดิตสังคม
2. การพัฒนาการเรียนรู้และเศรษฐกิจชุมชนบนฐานวัฒนธรรมแบบบูรณาการ ดำเนินกิจกรรมใน 2 ประเด็น ดังนี้
2.1 การพัฒนาการเรียนรู้ มีการดำเนินกิจกรรม คือ การพัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่การพัฒนาระบบบริการข้อมูลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ พัฒนาฐานข้อมูลองค์ความรู้ของหอจดหมายเหตุและหอสมุดแห่งชาติ การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ และแพลตฟอร์มการเรียนรู้สาธารณะรูปแบบใหม่ (Knowledge Portal)
2.2 การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนบนฐานวัฒนธรรม โดยการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย (CCPOT) สู่สากล การพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมตามรอยศาสตร์พระราชาเพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืนการพัฒนาศักยภาพชุมชนสู่การเป็นเมืองแห่งศิลปะ การสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยเพื่อต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์สินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม การส่งเสริมและกระตุ้นการสร้างธุรกิจในย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์
รายละเอียดและกิจกรรมสำคัญในการปฏิรูปด้านกีฬา โดยคณะอนุกรรมการด้านกีฬาได้แถลงผลการปฏิรูปที่เกิดขึ้น ดังนี้
รายละเอียดและกิจกรรมสำคัญในการปฏิรูปด้านแรงงาน โดยคณะอนุกรรมการด้านแรงงานได้แถลงผลการพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะในการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคนและการพัฒนาสมรรถนะเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย (E-Workforce Ecosystem Platform : EWE) เพื่อเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการพัฒนากำลังคนอยู่บนโครงสร้างเดียวกัน ประกอบด้วย ระบบแฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-portfolio) ที่จัดเก็บข้อมูลของบุคคลอย่างเป็นระบบ อาทิ หลักฐานการเรียนรู้ ประสบการณ์การทำงานการพัฒนาตนเอง ระบบแนะแนวอาชีพ (Career Guidance) ระบบคูปองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (E-Coupon) ระบบสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ (Digital Credit Bank) และระบบจับคู่งาน (Job Matching) โดยมีการทำ EWE Sandbox เพื่อสังเคราะห์และวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและกำลังแรงงานในภาพรวมแล้ว
พร้อมเตรียมประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูล แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการผลิต และพัฒนากำลังคนของประเทศไทยภายใต้ระบบ EWE กับ 50 หน่วยงาน นอกจากนี้ ยังพัฒนาความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) นำระบบ AI มาประมวลผล และการทำ Machine Translation ของการเชื่อมโยงการรหัสอาชีพของมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ /องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเกี่ยวข้องกับ EWE/ ธนาคารกรุงไทย สนับสนุนการพัฒนาระบบคูปองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ให้สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังและถุงเงิน
รายละเอียดและกิจกรรมสำคัญในการปฏิรูปด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ได้ให้ข้อมูลผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้น ดังนี้
นอกจากนี้ คณะกรรมการปฏิรูปฯ ยังได้ผลักดันให้เกิดการปฏิรูปด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการขององค์กรคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ทันสมัยมุ่งผลสัมฤทธิ์ โปร่งใส คล่องตัวสูง ลดความซ้ำซ้อน โดยเน้นที่การส่งเสริมให้เกิดแนวทางในการจัดตั้ง "สถาบันตรวจประเมินวิชาการผลิตภัณฑ์สุขภาพ" ตามรูปแบบที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ โดยได้มีการศึกษาวิเคราะห์ทางเลือกต่าง ๆ ทั้งนี้ จะได้มีการหาข้อสรุปร่วมกับสำนักงาน อย. ต่อไป
ภายในงานยังมีการเสนอมุมมองแนวทางการปฏิรูปและพัฒนาประเทศในอนาคต ในหัวข้อ Building Human Capital for the Next Chapter of Thailand Development : สานต่อ เดินหน้าพัฒนาคนไทย ร่วมเสวนากับนายถกลเกียรติ วีรวรรณ CEO, The One Enterprise ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี นางสาวดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด และเรือโท บุญศักดิ์ พลสนะ อดีตนักกีฬาแบดมินตัน ตัวแทนประเทศไทยในการแข่งโอลิมปิก 5 สมัย พร้อมด้วยการร่วมขึ้นเวทีทอล์กเสนอมุมมองชีวิตจากเรื่องราวประสบการณ์จริง สร้างแรงบันดาลใจสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่กล้าตามล่าหาฝัน และรัก(ษ์)ความสวยงามของวัฒนธรรมไทย ร่วมสานพลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศไทยให้งดงาม โดยสองสาวงามจากเวทีประกวด Miss Universe Thailand 2022 โดยแอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ร่วมทอล์กในหัวข้อ ใครๆก็ทำได้: Everyone can do! ความคิด ความฝัน ผลักดันให้เกิดความสำเร็จ และนิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ รองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 และในฐานะอนุกรรมการด้านการปฏิรูปอุตสาหกรรมบันเทิงเพื่อคุณธรรม วัฒนธรรม และสังคม ร่วมทอล์กในหัวข้อ "ปลูกฝังการรักในสิ่งที่เราเป็น: In my soul วัฒนธรรมไทย ประเทศไทย หล่อหลอมตัวตนของฉัน"
นอกจากนี้ ภายในงานแถลงผลการปฏิรูปด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ยังเปิดให้ประชาชนและผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมผลงาน และร่วมแสดงพลังขับเคลื่อนประเทศผ่านการแสดงความคิดเห็นเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่ความสมดุลและยั่งยืน ท่านสามารถรับชมการถ่ายทอดการแถลงผลการปฏิรูปด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ย้อนหลังได้ทางช่อง YouTube CRA Chulabhorn Channel ของทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ >> https://youtu.be/0cit7wxkjro