ALPHAX เปิดกลยุทธ์ Big Change ในครึ่งหลังปีนี้ "ธีร ชุติวราภรณ์" มั่นใจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว พร้อมเดินหน้าลุยโครงการอสังหาฯแนวราบ โปรเจคใหม่ The valor รามอินทรา 62 มูลค่าโครงการ 480 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าตลาดบน พร้อมปั้น New S-Curve ใหม่ ธุรกิจเช่าซื้อและปล่อยสินเชื่อในลาว ผ่าน "มะหะทุน เช่าสินเชื่อ" ผู้นำตลาดปล่อยกู้ซื้อมอเตอร์ไซค์ในกรุงเวียงจันทน์ เผยเตรียมส่งโปรดักส์ใหม่ "ปล่อยกู้ซื้อทอง-นาโนไฟแนนซ์" รองรับความต้องการของลูกค้า ขณะที่ธุรกิจสกัดกัญชงรอแค่ อย.ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ของลูกค้า พร้อมเดินหน้าผลิตตามแผน ส่วนธุรกิจขายช่อดอกกัญชา ภายใต้แบรนด์ CRAFT ORIGINAL หลังเปิดตัวช่วงกลางเดือน มิ.ย. โกยรายได้กว่า 16 ล้านบาท ในไตรมาสที่ผ่านมาหนุน ลั่นผลงานปีนี้เติบโตก้าวกระโดดตามนัด
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ALPHAX) เปิดเผยว่าแผนกลยุทธ์ในครึ่งหลังของปีนี้ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (Big Change) โดยกลุ่มบริษัทฯ จะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจทั้งในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเช่าซื้อ-ปล่อยสินเชื่อ และธุรกิจกัญชงกัญชา ซึ่งในช่วงครึ่งหลังจะเห็นภาพการเติบโตที่โดดเด่นทั้งในส่วนของรายได้และกำไร โดยในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปีนี้ เตรียมเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ The valor รามอินทรา 62 มูลค่าโครงการ 480 ล้านบาท มีเพียง 23 หลัง คาดว่าเริ่มโอนและรับรู้รายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด
ในส่วนของธุรกิจเช่าซื้อ-ปล่อยสินเชื่อ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ดำเนินการผ่าน บริษัท มหทุน โฮลดิ้ง จำกัด (MHTH) ซึ่ง ALPHAX ถือหุ้นในสัดส่วน 76.78% และ MHTH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน (MHTL) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รถมือสอง และเครื่องจักรกลการเกษตร ในนครเวียงจันทน์ เตรียมออกโปรดักส์ใหม่รองรับดีมานด์ลูกค้า
"แผนการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจเช่าสินเชื่อในลาว หลังจากที่บริษัทฯ เข้าถือหุ้นใหญ่และเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 2 บางส่วน ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะรับรู้เข้ามาเต็มที่ ซึ่งทีมบริหารเตรียมจะออกโปรดักส์สินเชื่อใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในนครเวียงจันทน์ โดยคาดว่าจะเปิดตัวสินเชื่อทองคำ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์เร็วๆนี้ ผ่านการใช้ฐานลูกค้าเดิมของมะหะทุนเช่าสินเชื่อที่มีจำนวนกว่า 80,000 ราย"
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์ม Digital Lending เพื่อนำมาใช้ในการขยายธุรกิจทั้งในไทยและลาว สอดรับแผนการก้าวสู่ความเป็นผู้นำ Fintech ของกลุ่มบริษัท
ขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจาขอสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในประเทศ ซึ่งจะทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนในการปล่อยกู้ ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในส่วนของพอร์ตสินเชื่อเดิม และพอร์ตสินเชื่อทองคำ รวมถึงนาโนไฟแนนซ์
สำหรับธุรกิจสกัดสารกัญชง-กัญชา บริษัทฯเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 100 เท่า โดยได้มีการสั่งซื้อเครื่องจักรแล้ว ซึ่งมีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบ 30,000 กิโลกรัม (30 ตัน) ต่อเดือน และมีกำหนดเดินเครื่องผลิตในช่วงไตรมาส 4/2565 อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สินค้าของ อย. ซึ่งหากมีความชัดเจนก็มีความพร้อมสามารถที่จะเดินเครื่องผลิตได้ทันที
ทั้งนี้ หลังจากที่ภาครัฐได้ปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "ช่อดอกกัญชาเกรดพรีเมียม" ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศกว่า 25 สายพันธุ์ ภายใต้แบรนด์ CRAFT ORIGINAL รวมทั้งมีจำหน่ายในร้านค้าพันธมิตรตามจังหวัดต่างๆในทุกภาค สามารถสร้างยอดขายเพียงแค่ครึ่งเดือนได้กว่า 16 ล้านบาท ในไตรมาสที่ผ่านมา และคาดว่าครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโตอย่างน้อย 10% ต่อไตรมาส
"ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้นักลงทุนจะได้เห็น Big Change ในกลุ่มธุรกิจของ ALPHAX ซึ่งแต่ละหน่วยธุรกิจ พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาฯ ที่เตรียมเปิดตัวโปรเจคใหม่แนวราบ ตอบโจทย์ลูกค้าในระดับไฮเอนด์ ขณะที่ธุรกิจเช่าซื้อและปล่อยสินเชื่อใน สปป.ลาว จะเป็นผู้นำตลาดรายแรกที่เตรียมปล่อยกู้ซื้อทองคำ และนาโนไฟแนนซ์ และสุดท้ายคือ ธุรกิจสารสกัดกัญชงกัญชา หากการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สินค้าของ อย. เริ่มมีความชัดเจน กลุ่มบริษัทฯก็พร้อมเสิร์ฟสินค้าป้อนให้กับลูกค้าได้ทันที ทั้งหมดนี้คือข้อสรุปแผนครึ่งปีหลังของกลุ่มบริษัทฯที่พร้อมจะโตแบบก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้" นายธีร กล่าวในที่สุด