- พลัสฯ มุ่งมั่น ยกระดับคุณภาพงานด้านบริหารอาคาร และระบบวิศวกรรมอาคาร ซึ่งเราเป็นบริษัทบริหารอาคารคนไทยบริษัทเดียวในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญ กับการนำระบบมาตรฐานการบริหารงานสากลมาใช้ โดยได้รับการรับรอง ISO ที่ครอบคลุมในทุกๆด้าน
- ตอกย้ำจุดแข็งยุคใหม่ของอาคารเพื่อการพาณิชย์ ด้วยการนำเทคโนโลยีและเทรนด์โลกมาพัฒนาการบริหารจัดการ พร้อมความเชี่ยวชาญในระบบวิศวกรรมอาคาร
- มุ่งสู่การยกระดับบุคลากรคุณภาพ เพื่อสร้างจุดขายและเพิ่มมูลค่าให้กับอาคาร มาตรฐานการบริหารอาคาร มุ่งมั่นในการให้บริการ โดยตั้งเป้าดันยอดปีนี้สู่ 400 ล้านบาท โดยมีพื้นที่ที่ให้บริการมากกว่า 2,000,000 ตร.ม.
นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและระบบวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า "ในปีนี้เป็นอีกปีที่ทางพลัสฯ มุ่งมั่นยกระดับ พัฒนาคุณภาพงานด้านบริหารอาคาร และระบบวิศวกรรมอาคาร โดยการจัดทำและขอรับรองมาตรฐานทางด้านคุณภาพระดับสากล ISO 9001 / ISO 41001 และ ISO 14001 พร้อมกับการตั้งเป้าหมายขยายฐานกลุ่มลูกค้าจากอาคารสำนักงานออกไปสู่อาคารเพื่อการพาณิชย์ที่หลากหลายรูปแบบเพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 10% โดยล่าสุดได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ให้เข้าบริหารงานด้านระบบวิศวกรรมอาคาร ซึ่งเป็นการรุกเข้าไปบริหารอาคารของกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลที่ให้บริการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนโดยทั่วไป จำนวน 7 อาคาร รวมพื้นที่ให้บริการกว่า 200,000 ตารางเมตร"
"เราได้มีการเสริมความแข็งแกร่ง เตรียมความพร้อมด้านระบบการทำงาน เทคโนโลยี และบุคลากรเพื่อรุกในกลุ่มอาคารที่มีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัทไทยเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล จาก ISO มากถึง 3 ระบบครอบคลุมครบทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพการบริการ การจัดการทรัพยากรกายภาพ รวมไปถึงการจัดการคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อม โดยทีมงานบุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการอาคาร พร้อมเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างรอบด้าน ทั้งด้านการดูแลอาคาร, บริหารงานวิศวกรรมอาคาร, บริหารงานด้านอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้อาคาร เพิ่มประสิทธิภาพอาคาร สำหรับอาคารเพื่อการพาณิชย์ในยุคต่อจากนี้ที่จะให้ความสำคัญกับ Sustainability และ Technology ที่เป็นจุดดึงดูดอาคารยุคใหม่ซึ่งถือได้ว่าเป็น New Normal สำหรับอสังหาฯ ยุคใหม่ก็ว่าได้"
พลัสฯ มองทิศทางสำหรับการบริหารอาคารยุคใหม่ ประกอบด้วยหัวใจหลัก (Heart of Building) 3 ด้านเพื่อตอบโจทย์สูงสุดด้านธุรกิจที่คำนึงถึงเจ้าของอาคาร และความสะดวกสบายส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้ใช้อาคาร
1. PROFESSIONAL ด้วยความจำเป็นที่ว่า Facility เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ขององค์กรที่หวังให้เกิดผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาวตามเป้าหมายและความต้องการในระดับกลยุทธ์ขององค์กร ผู้บริหารอาคารต้องทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว และต้องมีแผนการเตรียมการล่วงหน้าในการรักษาสมรรถนะ ศักยภาพ และ ขีดความสามารถขององค์กร ดังนั้นการบริหารอาคารจึงควรมีการทำงานในระดับกลยุทธ์ ผู้บริหารอาคารจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีความเป็นมืออาชีพ และสามารถตอบโจทย์การบริหารอาคารได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพย์สินที่มีค่า การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการประมวลผลเพื่อวางแผนงานการบริหารที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน ค่าใช้จ่าย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอาคาร
2.PEOPLE บุคลากรในสายงานบริหารอาคารมีส่วนสำคัญในการนำส่งคุณภาพงาน ดังนั้นกระบวนการคัดสรรบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับอาคารแต่ละประเภทนั้นเป็นจุดสำคัญมาก ด้วยพลัสฯมีประสบการณ์การคัดเลือกบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และพนักงานจะได้รับการอบรมความรู้ เฉพาะจากสถาบันต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงยังได้รับการอบรมจากสถาบันภายใน PLUS Eduplex ที่ช่วยเสริมทักษะ ในหลักสูตรสำหรับการทำงานทั้ง Soft Skill และ Hard Skill รวมถึงการจัดเตรียมความพร้อม จะมีการเตรียมในการรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน และจัดให้มีการซักซ้อมเป็นประจำ เช่น การซ้อมอพยพการหนีไฟ การซ้อมในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินภายในอาคาร การเกิดเหตุจากงานระบบวิศวกรรมอาคาร ในปีที่ผ่านมาพลัสฯ รับรางวัลชนะเลิศระดับสากล Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2021 ในสาขา Investment in People ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล นับเป็นบริษัทบริหารอาคารของไทยรายแรกและรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ จึงเห็นได้ว่าพลัสฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพด้านบริหารบุคคล
3.PLANET พลัสฯ ทำธุรกิจบริหารอาคารมานานกว่า 25 ปี จึงได้นำประสบการณ์มาพัฒนาองค์ความรู้ให้เข้ากับเทรนด์โลกอยู่เสมอ มีการวางแผน การกำหนดทิศทางในการทำงานให้สอดคล้องตรงกับนโยบายและความต้องการขององค์กรชั้นนำ อาทิ แนวคิดในการจัดการพลังงานไม่ใช่เพียงการมุ่งลดทอนปริมาณการใช้พลังงานหรือค่าไฟฟ้าลงให้มากที่สุดหรือเพื่อผลตอบแทนทางธุรกิจเท่านั้น แต่เป็นการมุ่งให้เกิดการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้อาคารด้วย และได้มีการนำ Internet of things (IoT) เข้ามาใช้โดยการเชื่อมต่อกับระบบ CPMS, BAS, EMS ซึ่งเป็นระบบเดิมของอาคาร โดยมีระบบประมวลผล AIoT Platform ทำหน้าที่วินิจฉัยปัญหาการใช้พลังงาน ความเสื่อมสภาพของอุปกรณ์และเครื่องจักร และเพื่อวินิจฉัยการทำงานที่ผิดปกติของระบบวิศวกรรมอาคาร
ตลอดระยะเวลาในการทำธุรกิจบริหารจัดการอาคารมานานกว่า 2 ทศวรรษ พลัสฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาแนวคิด กรอบการทำงาน วิธีการ กระบวนการปฏิบัติงานอันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มประสิทธิภาพ มุ่งให้เกิดประสิทธิผลต่อธุรกิจและสังคม ทำให้พลัสฯ ได้รับความไว้ใจจากลูกค้าเสมอมา อาทิ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, อาคารสำนักงานใหญ่เจียไต๋, The Commons, Union Mall, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เป็นต้น คิดรวมเป็นพื้นที่มากกว่า 2,000,000 ตารางเมตร เป้าหมายสำคัญของพลัสฯ คือก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการบริหารจัดการบริหารอาคาร และระบบวิศวกรรมอาคาร ยกระดับคุณภาพการบริการด้วยระบบมาตรฐานผ่านการรับรองโดย ISO ที่ครอบคลุมครบทุกมิติ พร้อมกับสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาคารอีกด้วย
สำหรับการดำเนินธุรกิจบริหารอาคารเพื่อการพาณิชย์ของพลัสฯ ในปี 2565 ยังคงเดินหน้ารับงานโครงการใหม่ โดยปัจจุบันพลัสฯ บริหารอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการทั้งในกลุ่มของธุรกิจธนาคารและการลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาล สถานศึกษา คอมมูนิตี้มอลล์ และพร้อมรับงานดูแลอาคารที่ครอบคลุมในทุกประเภท สำหรับผู้ที่สนใจบริการสามารถโทร.02-688-7555 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.plus.co.th/service/facility-management