ศูนย์เคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ลงทุนทิสโก้เตือน ในช่วง 1 - 3 เดือนนักลงทุนเตรียมรับมือหุ้นร่วงแรงอีกครั้ง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายการเงินเข้มเพื่อคุมเงินเฟ้อ พร้อมคาดจะยังส่งสัญญาณนโยบายการเงินเข้มงวดต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี แนะลงทุนในหุ้นอย่างระมัดระวัง และเป็นจังหวะซื้อหุ้นเทคโนโลยีและเฮลธ์แคร์ และหุ้นพลังงานหมุนเวียนหลบภัย
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาอยู่ภายใต้แรงกดดันของนโยบายการเงินอีกครั้งหลังการประชุมประจำปี Jackson Hole Symposium เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวย้ำในการประชุมถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง และการคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และยังระบุว่าการกดเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% เป็นสิ่งที่ Fed ให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้ พร้อมย้ำว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าปกติ (ระดับ 0.75%) อาจมีความเหมาะสมในการประชุมเดือนกันยายนด้วย
ซึ่งศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่า Fed จะยังคงส่งสัญญาณนโยบายการเงินที่เข้มงวดในลักษณะดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 2565 โดยมีปัจจัยสนับสนุน 3 ประเด็น คือ
จากประเด็นดังกล่าว ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ แนะนำให้นักลงทุนลงทุนด้วยความระมัดระวัง เพราะตลาดหุ้นจะกลับมาอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ประกอบกับมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง จึงมีความเสี่ยงที่ในระยะ 1- 3 เดือนข้างหน้า ตลาดหุ้นจะปรับลดลง และกลับไปอยู่ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดเดิม
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในช่วงนี้เป็นโอกาสของการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ ที่กำไรมักจะเติบโตได้ดีในทุกสภาวะเศรษฐกิจ และหุ้นพลังงานหมุนเวียน ที่หลายประเทศเริ่มให้ความสำคัญและเริ่มลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ