บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เผยนักลงทุนต่างชาติและสถาบันเข้ามาลงทุน NVDR หุ้น MTC คึกคัก ดันวอลุ่มซื้อเดือนส.ค.65 ทะยานกว่า 3,387 ล้านบาท ฟากบิ๊กบอส "ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" ระบุการลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัทฯ และธุรกิจสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่มีแนวโน้มดี มีศักยภาพการเติบโตของกำไรต่อเนื่อง เผยหากแบงก์ชาติประกาศนโยบายคุมดอกเบี้ยธุรกิจลิสซิ่ง มั่นใจไร้ผลกระทบ เพราะมีสัดส่วนเพียง 5%ของพอร์ตสินเชื่อรวม ประเมินระเบียบใหม่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่ทำตามกฎ ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ผู้นำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ของเมืองไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีเงินลงทุนของต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งจะเข้ามาเลือกลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโต และมีความสามารถในการทำกำไรในช่วงที่เหลือของปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง MTC ก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่อยู่ในเรดาร์ของกองทุนต่างชาติ ซึ่งได้ให้ความสนใจกันอย่างคึกคัก และทยอยเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง
โดยจากข้อมูลของเว็บไซต์ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด พบว่า เฉพาะเดือนสิงหาคม 2565 เดือนเดียว มีเงินทุนต่างชาติเข้ามาซื้อใน NVDR ของหุ้น MTC มูลค่ารวมกว่า 3,387 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากองทุนและนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯทั้งในปัจจุบันและอนาคต
"เสียดายที่นักลงทุนรายย่อยเรากลับขายหุ้นทิ้ง ทั้งที่ราคาปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงโดยต่างชาติเข้ามาเก็บทุกวัน"
สำหรับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมจะประกาศนโยบายการควบคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยในธุรกิจลิสซิ่ง หรือเช่าซื้อนั้น ปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนธุรกิจเช่าซื้อแค่ 5% ของพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ประมาณ 5,000 ล้านบาท เท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะกำหนดเพดานดอกเบี้ยเท่าใด ก็เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯแต่ประการใด
"ปัจจุบันบริษัทฯ มีการคิดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้ออยู่ในอัตราที่ต่ำอยู่แล้ว ดังนั้นแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะควบคุมอัตราดอกเบี้ยในอัตราเท่าใด ก็มั่นใจว่าจะไม่มีผลต่อการดำเนินงานธุรกิจของบริษัท แต่ในทางตรงข้ามจะส่งผลดีมากกว่า เนื่องจากระเบียบปฏิบัติใหม่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยหรือดีลเลอร์ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ จะได้รับผลกระทบโดยลูกค้าที่เคยใช้บริการจะหันมาหาผู้ประกอบการรายอื่นแทน ซึ่งส่งผลให้ MTC มีจำนวนลูกค้ามากขึ้น ดังนั้นประเด็นเรื่องการควบคุมดอกเบี้ยของธุรกิจลิสซิ่ง จึงไม่มีผลทางลบต่อบริษัทแต่ประการใด"นายชูชาติกล่าวในที่สุด