ครบรอบ 2 ปี "Mint Magazine" เร่งเครื่องกลยุทธ์ "Fanbased Economy" ตอบโจทย์ทาร์เก็ตกลุ่มผู้อ่าน Millennials และ Gen Z ที่เป็นมากกว่าคอนเทนต์แฟชั่น พร้อมเปิดตัวเว็ปไซต์ https://www.mintmagth.com เพื่อเติมเต็ม Ecosystem ให้ครบวงจร ย้ำการเป็นผู้นำสื่อแฟชั่นสัญชาติไทย แบบ Crossed Platform Media ตอบโจทย์การเข้าถึงทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ รวมถึงกิจกรรมพิเศษที่จะเกิดขึ้น พร้อมดึง "แบมแบม" GOT7 ขึ้นปกฉบับครบรอบ 2 ปี
คุณกฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ของก้อง 24 จำกัด ผู้ก่อตั้ง Mchoice และบรรณาธิการบริหารนิตยสาร MINT กล่าวว่า หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ได้เปิดตัวนิตยสาร Mint เพื่อเจาะกลุ่มผู้อ่าน Gen Z และ มิลเลนเนียลโดยเฉพาะเป็นครั้งแรกของไทย ถือว่าประสบความสำเร็จได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี มีตัวเลขทุกอย่างเติบโตเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก ซึ่งจนถึงวันนี้ทุกช่องทางที่เป็นโซเชียลมีเดีย มีจำนวนผู้ติดตามเติบโตมากกว่า 500% ซึ่งนับจากนี้บริษัทจะยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโต เพื่อให้ Mint กลายเป็นแพลตฟอร์มด้านสื่อแฟชั่นสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ครองใจคนไทยในระยะยาว
"จุดแข็งของ Mint คือ Agility หรือความเร็วในการปรับตัวให้เข้ากับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เราเน้นปรับตัวตามเทรนด์อย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับฟีดแบคและความต้องการของกลุ่มผู้อ่านได้มากกว่า นั่นทำให้ Mint ประสบความสำเร็จในตลาดได้เป็นอย่างดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยนับจากนี้บริษัทจะยังคงเดินหน้าสานต่อจุดแข็งของ แบรนด์คือความเป็นสื่อแฟชั่นที่มีทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์เน้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจในกระแสปัจจุบัน โดยความพิเศษของการฉลองครบรอบ 2 ปีในครั้งนี้ นอกจากจะมีการเปิดตัวเว็บไซต์ของแม็กกาซีนอย่างเป็นทางการแล้ว Mint Magazine ฉบับฉลองครบรอบ 2 ปี ก็ยังมีการดึงเอา "แบมแบม" ศิลปินชื่อดังเมมเบอร์ชาวไทยแห่งวง GOT7 มาขึ้นปกเป็นครั้งแรก โดยทั้งหมดได้ถ่ายทำที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยทีมงานเกาหลีทั้งหมด"
ด้าน คุณสรญา วัฒนเจียมวงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและ Publisher นิตยสาร Mint กล่าวถึงยุทธศาสตร์ในการผลักดัน Mint ให้เติบโตหลังจากนี้ว่า ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Mint ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงด้วยเอกลักษณ์ของแฟชั่น แม็กกาซีนที่รองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยแผนงานนับจากนี้จะยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ "Fanbased Economy" หรือการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์หรือ KOL ที่มีฐานแฟนเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยคอนเทนต์ที่ครีเอทีฟและหลากหลาย สร้างการเติบโตแบบ Pop Culture ที่ผสมผสานเข้ากับความสนใจของกลุ่ม Gen Z และ Millennials เข้าไว้ด้วยกัน ด้วยแนวคิดการทำงานสร้างความเชื่อมโยง (Relevancy) ผสานเข้ากับผู้ชม (Audience) ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย สร้างศูนย์กลางของความสนใจในการเพิ่มเอ็นเกจเมนต์ โดยมีเป้าหมายคือสร้าง Full Ecosystem ให้แก่ Mint ในระยะยาว และล่าสุดเพื่อเป็นการเติมเต็มความเป็น Full Ecosystem นิตยสารได้เปิดตัวเว็ปไซต์ https://www.mintmagth.com อย่างเป็นทางการ เพื่อการเติมเต็มอีโคซิสเท็มอีกขาที่สำคัญให้ Mint มีความสมบูรณ์ โดยไม่ได้ถูกกำหนดเรื่อง Algorithm จากโซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์มอื่นๆที่บริษัทเข้าไปใช้งาน ซึ่งเว็ปไซต์ดังกล่าวจะถูกดำเนินงานเพื่อสนองนโยบายในการทำตลาดที่เป็นเนื้อหาของ Mint แบบ 100% พร้อมปรับทิศทางให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายในการสร้างการเติบโตมากขึ้น โดยได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
"ทั้งนี้ได้มีการนำร่องเว็ปไซต์ให้เป็นที่รู้จักด้วยการเปิดตัวรางวัล MINT AWARDS เป็นครั้งแรกและเปิดให้มีการโหวตในเว็ปไซต์ สำหรับ 2 รางวัลในสาขา Popular Vote ได้แก่ 1. รางวัล Best Mint Cover จากทั้ง 11 ปกที่ผ่านมาของ Mint Magazine และ 2. รางวัล Rookie of The Year หรือรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ในวงการที่มาแรง (ต้องไม่เคยมีผลงานในวงการบันเทิงมาก่อน) โดยเปิดโหวตตั้งแต่ 17-31 สิงหาคม 2565 ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มแฟนให้ความสนใจมากมาย ส่งผลให้เว็ปไซต์มีอัตราการเข้าถึงแล้วกว่า 42 ล้านเพจวิว ซึ่งในงาน Mchoice 2022 ที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 9 กันยายน 2565 นี้ Mint Magazine จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปรากฏการณ์ครบรอบ 2 ปี ด้วยการประกาศรางวัล Mint Awards และศิลปินที่ได้รับรางวัลจะขึ้นรับรางวัลในงาน Mchoice 2022 อีกด้วย"
"อีกทั้งในปีถัดไป คิดว่าจะมีการจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่คร่ำหวอดในวงการอื่นๆด้วย ทั้งเพลง ศิลปิน หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อเก็บ Data ในการพัฒนาคอนเทนต์และเพิ่มจำนวนรางวัลตามความสนใจของผู้อ่านมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งสร้างเอ็นเกจเมนต์ไปในตัว ขณะที่การสร้างอีโคซิสเท็มเสต็ปต่อไปของ Mint คือการเชื่อมการสื่อสารจากโลก Online ไปยัง Offline อย่างเช่นการสร้างกิจกรรมพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้สมาชิกของเว็บไซต์ได้เข้าร่วมในอีเวนต์ต่าง ๆ (Offline Activity) เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนคลับที่เป็นสมาชิกของเว็ปไซต์ ได้เข้าถึงศิลปินดาราที่ชื่นชอบมากขึ้น โดยจะเริ่มจากงาน Mchoice 2022 ที่มีการแจกบัตรเข้าชมให้กับสมาชิกในเว็บไซต์แล้ว โดยปัจจุบัน https://www.mintmagth.com/ มีสมาชิกอยู่ราวๆหนึ่งล้านแอคเค้านต์"
"การเสนอคอนเทนต์เพียงอย่างเดียวไม่ใช่เป้าหมายหลักของเรา แต่เราต้องการสร้าง Full Ecosystem ของ Mint ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากจะต้องสามารถเสพคอนเทนต์ ข่าว รูป และสิ่งที่ชอบในพื้นที่แฟชั่นแล้ว ต้องตอบโจทย์เบเนฟิตของชีวิตให้กลุ่มเป้าหมาย ด้วยการมอบสิทธิพิเศษ Exclusive เฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ผ่านกิจกรรมบางอย่างให้สมาชิกของเว็ปไซต์ให้ได้รับประโยชน์มากขึ้น ซึ่งนั่นคือการสร้างอีโคซิสเท็มของเรามากกว่าความเป็นสื่อเพียงอย่างเดียว"
ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายหลักของ MINT เป็นผู้หญิงถึง 89% แบ่งเป็น 3 ช่วงอายุ ได้แก่ 1.อายุตั้งแต่ 18-24 ปี เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก มีสัดส่วนกว่า 40% 2. อายุ 13-23 ปี กว่า 20% และ 3. อายุ 25-34 ปี กว่า 20% ขณะที่อีกกว่า 10% ที่เหลือเป็นกลุ่มที่อายุเกิน 35 ปีขึ้นไปหมุนเวียนเข้ามา
คุณสรญา กล่าวต่อไปว่า รูปแบบการนำเสนอนับจากนี้จะยังคงโพซิชั่นของแบรนด์คือความเป็น Crossed Platform Media ที่ Always on 24/7 โดยในส่วนของสื่อออฟไลน์หรือแมกกาซีนที่เป็นเล่มนั้นจะตอบโจทย์ความต้องการได้เห็นได้สัมผัสภาพแฟชั่นระดับอินเตอร์ที่ถ่ายทอดผ่าน KOL ที่ผู้อ่านติดตามและให้ความสนใจ ในขณะที่พาร์ทของ Digital Platform จะเป็นการเสิร์ฟ Instant Report และ Instant Content คือคอนเท้นต์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์สดใหม่ทันเหตุการณ์ ซึ่งเป็นปริมาณคอนเท้นต์หลักๆของสื่อยุคนี้ ความรวดเร็วฉับไว ความถูกทาร์เก็ต เพื่อจับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายในระยะเวลานั้น อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายระยะยาวของ ของ Mint คือ การย้ำแนวคิดความเป็น Crossed Platform Media ที่ครบทุกบริการ ตอบโจทย์ตามความต้องการในทุกด้านของกลุ่มผู้อ่านที่เป็นเป้าหมาย
นอกจากนี้จะมีการยกระดับการทำงานแฟชั่นให้ไปสู่ระดับสากล จะต้องมีการทำงานร่วมกับต่างประเทศ ตั้งแต่ดารา ไปจนถึงแบรนด์แฟชั่น เพื่อก้าวสู่ความเป็นสื่อในระดับอินเตอร์ ควบคู่ไปกับที่จะมีแผนขยายกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรุกเข้าไปยังอีคอมเมิร์ซ หรือแม้กระทั่งการดึงเรื่องของ NFT เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายโดยมี https://www.mintmagth.com เป็นตัวนำอีกด้วย