กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ไอบีเอ็ม
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เน้นยุทธศาสตร์แห่งการเติบโต ด้วยการครองความเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจ ผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อความสำเร็จ และการเป็นองค์กรแห่งอนาคตด้วยความภาคภูมิ
ไอบีเอ็ม ยุคใหม่
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท ไอบีเอ็ม ใช้กลยุทธ์ความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมและสังคมโลก นำพาธุรกิจของบริษัทให้เติบโตทั้งด้านรายได้และผลกำไรสุทธิมาโดยตลอด ความสำเร็จนี้ เป็นผลมาจากวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนของไอบีเอ็ม ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลกยุคธุรกิจไร้พรมแดน ทิศทางธุรกิจไอทีที่ทำให้ไอบีเอ็มตัดสินใจเบนเข็มจากธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดคอนซูมเมอร์มาเป็นการให้ความสำคัญกับกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพสูงกว่าและทำกำไรได้มากกว่า หรือแม้กระทั่งแนวโน้มความต้องการทางด้านไอทีของลูกค้าที่ทำให้ไอบีเอ็มหันมาเน้นกลยุทธ์การคิดค้นนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพแบบไร้พรมแดน
ในปี 2551 ไอบีเอ็มจะยังคงยืนหยัดความเป็นผู้นำในตลาดไอทีของโลกและในประเทศไทย ด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกัน และก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งอนาคตอย่างเต็มภาคภูมิ
นายธันวา เลาหศิริวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ”ไอบีเอ็ม ได้ก้าวเข้าสู่ไอบีเอ็มยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงเป็นพิเศษ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดกลุ่มนี้ ควบคู่ไปกับการเลือกธุรกิจที่มีทิศทางการเติบโตอย่างน่าสนใจและไอบีเอ็มมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำมาเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้าในเรื่องนั้นๆ ตัวอย่างของธุรกิจที่มีทิศทางการเติบโตอย่างกว้างขวาง เช่น SOA (Service Oriented Architecture) ที่ผู้บริหารขององค์กรชั้นนำกำลังหันมาให้ความสนใจ เทคโนโลยีเสมือน (Virtualization) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายทางด้านไอทีในองค์กร การให้ความสำคัญกับ Green IT ในการบริหารการใช้พลังงานและลดสภาวะโลกร้อน การดำเนินการด้านธรรมาภิบาลไอทีและความปลอดภัยของระบบและข้อมูล รวมถึงการผลิตบุคลากรเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรไอทีในตลาดแรงงาน เป็นต้น”
ปัจจุบัน ไอบีเอ็ม มีสินค้าและบริการครอบคลุมความต้องการทางด้านไอทีแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ การให้บริการด้านคำปรึกษา การให้บริการไอทีที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ ”บริษัทฯ ตั้งปณิธานในการทำงาน 3 ข้อหลัก คือ Speed ความรวดเร็วในการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา Focus การจัดลำดับความสำคัญและทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จของลูกค้า และ Client Value การเพิ่มศักยภาพการทำงานเพื่อให้ลูกค้าสามารถนำนวัตกรรมไปพัฒนาให้ธุรกิจเติบโต ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ไอบีเอ็มโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักอยู่ที่การนำพาธุรกิจของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายนั่นเอง” นายธันวากล่าว
ในปี 2550 ที่ผ่านมา ไอบีเอ็ม ประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ ผลกำไร และการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมให้เป็นผู้จัดหา ดำเนินการและติดตั้งโซลูชั่นในโครงการสำคัญต่าง ๆ เช่น โครงการ LCB1 ของบริษัท แอลซีบี คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล 1 จำกัด โครงการเอสโอเอ (Service Oriented Architecture - SOA)ของธนาคารทหารไทย โครงการ SoFS (Scale out File Service) ของบริษัทในเครือกันตนากรุ๊ป หรือ โครงการเอาท์ซอร์สด้านไอที (Strategic Outsourcing) ของกลุ่มบริษัทไมเนอร์ กรุ๊ป เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มศักยภาพให้กับคู่ค้าและพันธมิตรด้วยการเปิดตัวแคมเปญต่าง ๆ เช่น แคมเปญ Small Business Campaign — Put Power in Your Business ร่วมมือกับบริษัทคู่ค้า คือ คอมพิวเตอร์ ยูเนี่ยนเปิดศูนย์สาธิต Business Partner Innovation Center (BPIC) หรือความร่วมมือกับภาครัฐในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในประเทศอย่างยั่งยืนตามโครงการหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์บริการ (SSME) การจัดทำโครงการสนับสนุนความร่วมมือด้านการอนุรักษ์พลังงาน เช่น โครงการ Project Big Green และ Green Data Center หรือโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่น Blue Charity เป็นต้น และในปี 2550 ที่ผ่านมานี้ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ยังได้รับเลือกจากผู้อ่านนิตยสาร Positioning ให้เป็นหนึ่งใน 10 บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดอีกด้วย
แผนกประชาสัมพันธ์
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
วีระกิจ โล่ทองเพชร
โทร. 02 273 4117
อีเมล์ werakit@th.ibm.com