เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยศูนย์พัฒนาความร่วมมือด้านบริการทางการแพทย์และภาคีเครือข่าย และงานสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดยะลา โรงพยาบาลยะลา จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรหลักสูตรฝึกอบรม "การตรวจนักอัลตราซาวด์ทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา" รุ่นที่ ๑ จำนวน ๒๖ คน เพื่อพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ ในหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นผู้มอบประกาศนียบัตรฯ เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมในครั้งนี้ พร้อมด้วยแพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมร่มประดู่ ชั้น ๗ โรงพยาบาลยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
การจัดฝึกหลักสูตรระยะสั้นการตรวจอัลตราซาวด์ทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รุ่นที่ ๑ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อผลิตนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ซึ่งเป็นสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลน และมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการให้บริการในโรงพยาบาลทุกระดับ ซึ่งมีหน้าที่ให้บริการดูแลอนามัยแม่และเด็กในหน่วยบริการปฐมภูมิ พัฒนาหลักสูตรโดยงานสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ หลักสูตรประกอบด้วย ภาคทฤษฏี จำนวน ๒๒.๕ ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ จำนวน ๓๐ ชั่วโมง ซึ่งจัดฝึกอบรมภาคทฤษฏีผ่านระบบออนไลน์ไปแล้ว เมื่อวันที่ ๖-๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ และฝึกอบรมภาคปฏิบัติระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลยะลา โดยมีทีมวิทยากรซึงเป็นแพทย์งานสูตินรีเวชกรรม นำโดย แพทย์หญิงราชาวดี ตันวิสุทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา สาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ทีมแพทย์โรงพยาบาลยะลา และโรงพยาบาลเบตง ร่วมกันถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์โดยตรง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการให้บริการมารดาในระหว่างตั้งครรภ์ ให้ได้รับการคัดกรองจากการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงหรืออัลตราซาวด์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งในหลายช่วงอายุครรภ์ เนื่องจากได้รับการตรวจหาความผิดปกติในไตรมาสแรก ลดการเกิดผลเสียต่อสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ได้ รวมถึงการกำหนดอายุครรภ์และการประเมินความสมบูรณ์ทารกในครรภ์เพื่อลดปัญหาอนามัยแม่และเด็กโดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีอัตราการเสียชีวิตมารดาและทารกในครรภ์สูง นอกจากนี้ผู้ฝึกอบรมจะได้การเสริมทักษะความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือในการการวินิจฉัยเบื้องต้นจนนำไปสู่การวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ตลอดจนเสริมสร้างเจตคติที่ดีในการบริการมารดาในระหว่างตั้งครรภ์ด้วย