WINMED เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/65 ฟอร์มดี รับช่วงไฮซีซั่น ประชาชนมั่นใจใช้บริการทางการแพทย์เพิ่ม ดันยอดขายสินค้าธุรกิจกลุ่มธนาคาร-ความปลอดภัยโลหิต โครงการ สปสช.หนุนธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสตรี เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แบรนด์ "AVA" ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง (HPV & STIs Self-Collect test) ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย เร่งขยายช่องทางจำหน่าย ออนไลน์ และ ออฟไลน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ สร้างยอดขาย หนุนรายได้โตต่อเนื่อง
นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED ผู้นำเข้า และจำหน่ายเครื่อง อุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 3ปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์กลับสู่สภาวะปกติ ประชาชนมีความมั่นใจ สามารถกลับมาใช้บริการทางการแพทย์ การบริจาคโลหิตเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ปัจจัยสนับสนุนจากโครงการ สปสช. ให้ความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ส่งผลให้ความต้องการในการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มธนาคาร-ความปลอดภัยโลหิต และ กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสตรี เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ บริษัทเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง (HPV & STIs Self-Collect test) สำหรับผู้หญิงและผู้ชายภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์" AVA " โดยเป็นชุดตรวจที่ใช้งานง่าย สามารถตรวจด้วยตนเอง และนำเชื้อส่งตรวจวิเคราะห์หาการติดเชื้อไวรัส HPV mRNA กับคลินิกเทคนิคทางการแพทย์ WINMED ผู้ใช้บริการจะทราบผลภายใน 5-7 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เตรียมออกจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายประมาณ 30,000 ชุด
อีกทั้ง มุ่งเน้นกลยุทธ์ช่องทางการตลาดออนไลน์ ควบคู่การตลาดออฟไลน์ (OMNI Channel) สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า B2C ครอบคลุมทั่วประเทศ อาทิ ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต และช่องทางออนไลน์ต่างๆ
ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง (HPV & STIs Self-Collect test) สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย แบรนด์ AVA เป็นนวัตกรรมการตรวจหาเชื้อไวรัส ที่มีประสิทธิภาพ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้หญิงที่กลัวเจ็บจากการตรวจด้วยวิธีเดิม ๆ และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้หญิงไทย เข้าสู่กระบวนการรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกอย่างทันท่วงที ช่วยลดจำนวนการเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคนี้ คาดว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดี ช่วยสร้างยอดขาย หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/65 บริษัทมีรายได้รวม 191.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 116.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65% และมีกำไรสุทธิ 15.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 292 %