ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อการดูแลผิวพรรณและลบเลือนริ้วรอยต่างๆ อย่าง "เลเซอร์เพื่อความงาม" ได้มีการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งประสิทธิภาพการทำงานที่ลงระดับชั้นลึกใต้ผิวหนัง การให้ผลลัพธ์หลังการรักษาแบบเห็นผลทันที ไม่รู้สึกเจ็บในขณะทำการรักษา เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า เราควรเลือกเลเซอร์อย่างไร เพื่อไม่ให้ผิวถูกทำร้ายโดยไม่ทันรู้ตัว
นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ และประธานบริษัท ด็อกเตอร์ แททออฟ คลินิก กล่าวว่า "ปัจจุบันความนิยมในการดูแลและรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวพรรณด้วย "เลเซอร์" ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่จำกัดเพียงเพศใดเพศหนึ่งหรือวัยใดวัยใดหนึ่งอีกต่อไป ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่มักพบในกลุ่มผู้ที่เข้ามาปรึกษาและรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวพรรณ ได้แก่ กลุ่มผู้ต้องการลบรอยสักตามร่างกายและใบหน้า กลุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหารอยดำ รอยแดง หลุมสิว รอยคล้ำ กลุ่มคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหารอยแตกลาย ผิวหนังหย่อนคล้อย รอยแผลเป็นจากการผ่าตัด รอยนูนจากคีลอยด์ รวมถึง กลุ่มผู้ที่มีปัญหาจากความผิดปกติของเม็ดสีตั้งแต่กำเนิด ก็จะเข้ามาแก้ไขปัญหาปานดำ ปานน้ำตาล ปานแดง เป็นต้น
นอกจากนี้ นวัตกรรมเทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่มีการพัฒนาขึ้นมาก แตกต่างจากเทคโนโลยีเดิม ทำให้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสามารถเข้าถึงอย่างตรงจุด รวดเร็ว ไม่เจ็บ และให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ อย่างเครื่อง PicoWay (พิโค่เวย์) เลเซอร์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA US) มาให้บริการ เลเซอร์ตัวนี้ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถลบรอยสักได้ทุกสี เนื่องจาก เป็นเลเซอร์ระดับ Pico-second จะมีหัว Wavelength ในการลบเฉพาะสี โดยเฉพาะสีที่ลบยาก สีเขียวและสีฟ้า และสีที่สักทับกันหลายชั้น สามารถเข้าทำลายเม็ดสีจากรอยสักได้ทุกสีอย่างจำเพาะเจาะจง ใช้เวลาน้อยกว่า ผลข้างเคียงน้อยกว่า ไร้รอยแผลเป็น
ดังนั้น สิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการเลเซอร์
1. ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เนื่องจากเลเซอร์มีคุณสมบัติในการรักษาและแก้ไขปัญหาแตกต่างกัน อีกทั้งผิวหนังบางจุดมีความบอบบาง เช่น ข้อเท้า ข้อมือ เป็นตำแหน่งของผิวที่ลบรอยสักยากกว่าผิวบริเวณอื่น หากไม่ใช่แพทย์ผู้ชำนาญการและเชี่ยวชาญอาจปรับค่าพลังงานให้เหมาะกับสภาพผิวได้ไม่ถูกต้อง และทำให้การลบรอยสักไม่ได้ผล หรืออาจทำร้ายผิวหนังบริเวณนั้นได้
2. ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่า เครื่องเลเซอร์ได้รับมาตรฐานองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA US) และได้รับมาตรฐานองค์การอาหารและยาประเทศไทย เนื่องจากหัวเลเซอร์พลังงานในการรักษามีความเหมาะสมกับสภาพผิวของคนเอเชีย ดังนั้น จึงมั่นใจในผลลัพธ์หลังการรักษาได้ว่าสามารถลบรอย
ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย และประการสุดท้าย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังเลเซอร์อย่างเคร่งครัด เช่น การงดโดนน้ำ 24 ชม.หลังการทำเลเซอร์ ทายาตามแพทย์สั่ง เป็นต้น
ปัจจุบัน Dr.TATTOF Clinic เป็นผู้นำเบอร์ 1 ในเอเชียด้านการลบรอยสัก รอยแผลเป็น รอยแตกลาย สลายไขมัน หน้าท้องหย่อนคล้อย และกำจัดขนถาวร ด้วยนวัตกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย การันตีคุณภาพด้วยรางวัล และผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรงที่คลินิก Dr.TATTOF ทั้ง 10 สาขา ได้แก่ สาขาสีลม คอมเพล็กซ์, สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว, สาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา, สาขาเอท ทองหล่อ, สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า, สาขาเดอะ พรอมานาด, สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต, สาขาเซ็นทรัล พระราม 2 และสาขาเมกาบางนา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 099-614-2424 ไลน์ : @dr.tattof เฟซบุ๊ก : Dr.TATTOF หรือเว็บไซต์ www.drtattof.com