'จุรินทร์' ทำรายได้เข้าไทยต่อเนื่อง นำพาณิชย์ลงนาม Mini-FTA ไทย-คยองกี กับสาธารณรัฐเกาหลี ฉบับที่ 2 เร่งดันยอดส่งออก เป็น 210,000 ล้านบาท ใน 3 ปี เพิ่มโอกาสสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรม
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานสักขีพยานและกล่าวแสดงความยินดีในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ Mini-FTA ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) และ Gyeonggido Business & Science Accelerator (GBSA) จังหวัดคยองกี สาธารณรัฐเกาหลี โดยมีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเรืองฤทธิ์ (อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายอี แก-ยอล (Head of Global Trade Department and Executive Director, GBSA) เป็นผู้ลงนามฝ่ายสาธารณรัฐเกาหลี ณ ห้อง World Ballroom C ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
นายจุรินทร์ กล่าวว่าความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือฉบับที่ 2 ที่กรมฯ ได้จัดทำกับหน่วยงานท้องถิ่นของสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดดำเนินการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าเชิงรุก เพื่อขยายการค้าของไทยไปยังตลาดโลกในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรทั้งเมืองหลักและเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยตั้งเป้าว่าภายหลังการลงนามในครั้งนี้ มูลค่าการส่งออกจากไทยไปยังสาธารณรัฐเกาหลีจะเพิ่มขึ้นเป็น 210,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี พร้อมทั้งได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งผลักดันซอฟพาวเวอร์ของไทย ที่มีจุดเด่นในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ และวัฒนธรรม ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้ใช้ความร่วมมือด้านการค้าผ่านซอฟพาวเวอร์อย่างเป็นรูปธรรม
สาธารณรัฐเกาหลี เป็นหนึ่งในพันธมิตรทางการค้าที่สำคัญยิ่งของไทย ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ของโลก และเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 9 ของไทย โดยในปี พ.ศ. 2564 ไทยและสาธารณรัฐเกาหลีมีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 15,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 502,500 ล้านบาท เติบโตกว่าร้อยละ 35 และในปี พ.ศ. 2565 (มกราคม-สิงหาคม) มีมูลค่ากว่า 11,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 394,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 20 ซึ่งจังหวัดคยองกีเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP: Gross Domestic Product) เป็นอันดับ 1 มีประชากรกว่า 13.93 ล้านคน มากที่สุดของสาธารณรัฐเกาหลี โดยปี พ.ศ. 2564 การค้าระหว่างไทยกับจังหวัดคยองกี มีมูลค่าสูงถึงราว 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 100,000 ล้านบาท และในปัจจุบันปี พ.ศ. 2565 (มกราคม-กรกฎาคม) มีมูลค่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 63,500 ล้านบาท ชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งและศักยภาพของจังหวัดคยองกี ที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการค้าระหว่างกัน
สำหรับโอกาสของสินค้าไทย มีความโดดเด่นทั้งในกลุ่มสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรม โดยในปี พ.ศ. 2564 สาธารณรัฐเกาหลีเป็นตลาดส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง อันดับ 5 ของไทย มูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านบาท และเป็นตลาดส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป อันดับ 8 ของไทย มูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท รวมถึงเป็นตลาดส่งออกแผงวงจรไฟฟ้า อันดับ 10 ของไทย มูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท อีกทั้งเป็นตลาดส่งออกผลไม้ไทยอันดับ 7 มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่ขยายตัวได้ดี เช่น อาหาร น้ำตาลทราย ไก่แปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เคมีภัณฑ์ ไม้และชิ้นส่วน เป็นต้น
ทั้งนี้ ความร่วมมือ ไทย-คยองกี นับเป็นอีกหนึ่ง Mini-FTA ที่จะเปิดประตูการค้าด้วยสินค้า บริการ และซอฟพาวเวอร์ เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการบุกตลาดสาธารณรัฐเกาหลี และเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าทุกรูปแบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การค้าสากลได้อย่างยั่งยืนต่อไป